วิญญาณสายตำรวจเฮี้ยนตามหลอนพยานยอมให้ข้อมูลตำรวจออกหมายจับ
จากกรณี เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ช้างใหญ่ อ.บางไทร จ.พระนครศรีอยุธยา พบศพนายกิฐติ พูลสะสมทรัพย์ อายุ 41 ปี สภาพขึ้นอืด ซึ่งเป็นสายตำรวจ สภ.สามโคก จ.ปทุมธานี ถูกคนร้ายไม่ทราบจำนวนฆ่าทุบตีด้วยของแข็งมีบาดแผลบริเวณ คิ้วและท้ายทอยแล้วนำศพมาทิ้งเอาไว้ บริเวณริมคลองส่งน้ำกลางทุ่งนา ม.2 เชียงรากน้อย อ.บางไทร จ.พระนครศรีอยุธยา จากการสืบสวนทราบว่า ผู้ตายได้เดินทางมาหา นายนารินทร์ หรือไก่ สุทธิ อายุ 43 ปี ที่บ้านพัก ของนายไก่ และถูกนายไก่ต่อว่า ที่ผู้ตาย เป็นสายให้ ตำรวจ สภ.สามโคก จ.ปทุมธานี ทำให้เอเย่นต์ยาบ้า ในกลุ่มถูกจับกุมตัวไป ด้วยความโกรธแค้นนายไก่ จึงได้ใช้ไม้ตีจนทำให้ กิฐติ พูลสะสมทรัพย์ อายุ 41 ปี เสียชีวิตแล้วนำศพไปซ่อนไว้ในคลองส่งน้ำ ก่อนที่จะเรียกพรรคพวกให้มาช่วยขนศพขึ้นใส่ซาเล้งไปที่ยังจุดที่พบศพ เมื่อช่วงเช้าวันที่ 28 ก.ย. ตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น
ความคืบหน้าล่าสุดที่วันที่ 30 ก.ย. ที่ สภ.ช้างใหญ่ อ.บางไทร จ.พระนครศรีอยุธยา พ.ต.อ.สถิตย์ สังข์ประไพ ผกก. สภ.ช้างใหญ่ ได้ตรวจสอบรถจักรยานยนต์ของผุ้ตายที่เจ้าหน้าที่ตำรวจไปตรวจยึดได้ ภายในคลองส่งน้ำ ม.2 ต.เชียงรากน้อย อ.บางไทร จ.พระนครศรีอยุธยา ใกล้กับจุดที่พบศพ
จากนั้นได้ควบคุมตัวนายวีระศักดิ์ หรือดิ่ง สุทธิ อายุ 34 ปี น้องชายนายนารินทร์ หรือไก่ สุทธิ อายุ 43 ปี ผู้ต้องสงสัยที่ยังหลบหนี ซึ่งนาย วีระศักดิ์ หรือดิ่ง ถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจไปติดตามจับกุมตัวมาได้ขณะหลบซ่อนตัวอยู่ที่บ้านญาติ เมื่อช่วงค่ำที่ผ่านมา ตรวจสอบปัสสาวะพบว่ามีสารเสพติด พ.ต.อ.สถิตย์ สังข์ประไพ ผกก. สภ.ช้างใหญ่ พร้อมพนักงานสอบสวน จึงได้ทำการสอบสวน นายวีระศักดิ์ ดิ่ง เพื่อรวบรวมพยานหลักฐานออกหมายจับกลุ่มผู้ก่อเหตุ
นายวีระศักดิ์ หรือดิ่ง สุทธิ อายุ 34 ปี กล่าวว่า วันเกิดเหตุตนเองไม่ได้อยู่ในเหตุการณ์ทราบเพียงว่า พี่ชายของตนเองคือนายนารินทร์ หรือไก่ สุทธิ อายุ 43 ปี และนายพิเชษฐ์ หรือเต้ย เวณุภูติ อายุ 21 ปี และ นายนพรัตน์ หรือ เอ้ ชะวัยเกตุ อายุ 34 ปี ได้มีการโทรติดตามตัวนายกิฐติ พูลสะสมทรัพย์ อายุ 41 ปี ผู้ตาย มาสอบถามเรื่องการเป็นสายตำรวจ จนทำให้เอเย่นต์ยาบ้าในกลุ่มถูกจับกุมตัวไป จนเกิดการโต้เถียงกันแล้วรุมทำร้ายร่างกาย ตนมาทราบช่วงกลางดึกตนออกไปดูในคลองส่งน้ำพบผู้ตายนอนเสียชีวิตอยู่ในคูน้ำ จากนั้นพี่ชายของตนเองพร้อมกับนายพิเชษฐ์ หรือเต้ย และนายนพรัตน์ หรือ เอ้ ช่วยกันขนย้ายศพขึ้นรถซาเล้งนำศพไปทิ้ง ในคลองส่งน้ำ ห่างจากบ้านพักประมาณ 2 กิโลเมตร จากนั้นพี่ชายได้มาขอร้องให้ตนหลบหนีไปด้วยกัน เพราะเชื่อว่าถ้าตำรวจติดตามตัวมาต้องจับตัวเองไปด้วย แต่หลังจากตนเองหลบหนีไปได้เพียง 1 เดือน วิญญาณของผู้ตายติดตามตัวเองมาเกาะขาและเขย่าตัว รวมถึงกลิ่นเหม็นเน่าของซากศพ พี่ชายชวนตนเองหนีต่ออีกตนไม่ขอติดตามไปด้วย เพราะกลัววิญญาณจึงได้รอเจ้าหน้าที่ตำรวจติดตามมาพบตัว ตนเชื่อว่าวิญญาณของผู้ตายต้องการให้ตนช่วยเหลือจึงได้ยอมให้ข้อมูลกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ นับตั้งแต่ที่ตนเองมาอยู่ ที่โรงพักเมื่อคืน วิญญาณของผู้ตายหายไปเลย
พ.ต.อ.สถิตย์ สังข์ประไพ ผกก. สภ.ช้างใหญ่ กล่าวว่าในเบื้องต้นขณะนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจ ทราบตัวผู้ก่อเหตุทั้งหมดแล้ว และทราบแหล่งกบดานแล้วส่งเจ้าหน้าที่ตำรวจไปติดตามตัว พร้อมกับทางพนักงานสอบสวนได้สอบพยานและรวบรวมพยานหลักฐาน ขอศาลจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ออกหมายจับ ล่าสุดศาลจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ออกหมายจับนายนารินทร์ หรือไก่ สุทธิ อายุ 43 ปี และนายพิเชษฐ์ หรือเต้ย เวณุภูติ อายุ 21 ปี และ นายนพรัตน์ หรือ เอ้ ชะวัยเกตุ อายุ 34 ปี ในข้อหา ร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา และ ซ่อนเร้นย้ายหรือทำลายศพเพื่อปิดบังการตาย หรือเหตุในการตาย