เยาวชน อายุ 16 ปี เล่นฟรีรันนิ่งบนโบราณสถานวัดมหาธาตุเข้ามอบตัวแล้ว
จากกรณีที่มีการแชร์คลิปตามสื่อโซเชียล เป็นคลิปภาพ ชาย กระโดดข้ามไปมา ตัวโบราณสถานวัดมหาธาตุ อุทยานประวัติศาสตร์พระนครศรีอยุธยา หรือที่เรียกว่าฟรีรันนิ่งจนมีการแสดงความคิดเห็นถึงความไม่เหมาะสม กับสถานที่ซึ่งมีความสำคัญทางประวัติศาสตร์ และลักษณะการกระโดดอาจทำให้เกิดความเสียหาย ทางอุทยานประวัติศาสตร์พระนครศรีอยุธยา ได้เข้าลงบันทึกประวัน กับพนักงานสอบสวน สภ.พระนครศรีอยุธยา เพื่อติตตามตัวมาดำเนินคดี จาการสืบสวนจนทราบตัวบุคคลที่กระโดดอยู่บนโบราณสถานคือเด็กชาย อายุ 16 ปี ชาว จ.ชลบุรี ตามข่าวที่เสนอไปแล้วนั้น
ความคืบหน้าล่าสุด เมื่อเวลา 18.00 น. วันที่ 8 ม.ค.ที่สภ.พระนครศรีอยุธยา จ.พระนครศรีอยุธยา นายแชมป์(นามสมมุติ) อายุ 16 ปี คนที่กระโดดภายในโบราณสถาน พร้อมด้วยน.ส.นฤมล ฝอยทองสำโรง อายุ 58 ปี ชาวกรุงเทพมหานคร มารดา ได้เดินทางเข้ามอบตัวต่อ พ.ต.อ.ประเวศ ศรีนาค ผกก.สภ. พระนครศรีอยุธยา และ ผู้อำนวยการอุทยานประวัติศาสตร์พระนครศรีอยุธยา โดยไม่อนุญาตให้ผู้สื่อข่าวเข้าไปบันทึกภาพภายในห้อง ใช้เวลาในการพูดคุยกันอยู่ประมาณ 40 นาที
น.ส.นฤมล เปิดเผยว่า ในวันที่ 5 ม.ค. ตนและน้องแชมป์ได้มาเที่ยวที่โบราณสถานดังกล่าว เพื่อมาไหว้พระ โดยมากันแค่ 2 คน ไม่ได้มีแก๊งอะไร โดยในวันนั้นตนเป็นคนถ่ายคลิปให้น้องแชมป์ ที่เขาทำแบบนั้นลงไปอาจจะเป็นเพราะความสนุกของเขา แต่หลังจากเกิดเรื่องเขาก็เห็นข่าวเขาก็มีอาการซึม ตนก็กลัวว่าลูกจะฆ่าตัวตาย จึงรีบพามามอบตัวกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ เขาก็ได้ขอโทษทางเจ้าหน้าที่ไปแล้ว ซึ่งน้องแชมป์ก็ชอบการเล่นฟรีรันนิ่งเป็นชีวิตจิตใจ หลังจากนี้น้องแชมป์ก็จะบวชเพื่อเป็นการขอขมาสถานที่ 3 วัน
ด้านพ.ต.อ.ประเวศ เปิดเผยว่า น้องแชมป์ได้มากับคุณแม่ในลักษณะจะมาไหว้พระ 9 วัด เมื่อมาถึงวัดดังกล่าวน้องก็ได้วานให้แม่ถ่ายคลิปที่กระโดดให้ เพราะชอบกระโดดอยู่แล้ว เบื้องต้นจากการตรวจสอบสถานที่ไม่พบความเสียหายอันใด แต่น้องแชมป์ก็มีความผิดในข้อหาตามพระราชบัญญัติโบราณสถาน โบราณสถานวัตถุ ศิลปวัตถุ และพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ พ.ศ. 2504 ตามข้อ 4 ปีนป่ายโบราณสถานหรือกระทำการใดๆ อันอาจให้เกิดความชำรุด ข้อ 6 ว่าด้วยกระทำการอันน่ารังเกียจต่อศีลธรรมอันดีฯ ในเขตโบราณสถาน อันมีโทษจำคุกไม่เกิน 1 เดือน ปรับไม่เกิน 10,000 บาท แต่น้องยังเป็นเยาวชนจึงได้มีการทำทันบนทั้งเด็กและผู้ปกครองไว้และกล่าวตักเตือนเป็นที่เรียบร้อยแล้ว พร้อมกับทำการปรับจำนวน 500 บาท