สมาคมธุรกิจท่องเที่ยวอยุธยา จัดกิจมนต์เสน่ห์อโยธยา มหามงคล กระตุ้นการท่องเที่ยว
วันที่ 6 ก.ค. ที่โบราณสถานวัดกุฎีดาว ต.ไผ่ลิง อ.พระนครศรีอยุธยา จ.พระนครศรีอยุธยา นางจิระพันธุ์ พิมพ์พันธ์ ประธานสภาวัฒนธรรมจังหวัดพระนครศรีอยุธยา นางสมทรง พันธ์เจริญวรกุล นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดพระนครศรีอยุธยา นายณรงค์ ด่านชัยวิโรจน์ นายกเทศมนตรีเมืองอโยธยา นางปราณี ด่านชัยวิโรจน์ นายกสมาคมธุรกิจท่องเที่ยวจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ร่วมกันแต่งชุดไทย สวมผ้าไทย ตักบาตรพระสงฆ์ จำนวน 30 รูป เป็นการเปิดกิจกรรม “มนต์เสน่ห์…อโยธยา…มหามงคล” จัดโดย สมาคมธุรกิจท่องเที่ยวจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ร่วมสืบสานประเพณีไทย กระตุ้นการท่องเที่ยวในช่วงเทศกาลเข้าพรรษา
นางปราณี ด่านชัยวิโรจน์ นายกสมาคมธุรกิจท่องเที่ยวจังหวัดพระนครศรีอยุธยา กล่าวว่า สำหรับ กิจกรรม “มนต์เสน่ห์…อโยธยา…มหามงคล” เพื่อ เป็นการสืบสานประเพณีไทย ส่งเสริมพระพุทธศาสนา ร่วมกับการส่งเสริมการท่องเที่ยวของจังหวัดฯ กระตุ้นความสนใจ และเพิ่มจำนวนนักท่องเที่ยวให้มาเที่ยวจังหวัดพระนครศรีอยุธยามากยิ่งขึ้น อีกทั้งยังเป็นการประชาสัมพันธ์วัฒนธรรมอันดีงามของจังหวัดพระนครศรีอยุธยาอีกทางหนึ่ง
โดยกิจกรรมแบ่งออกเป็น 3 ส่วน ได้แก่ ในยามเช้า ผู้เข้าร่วมกิจกรรมสวมใส่ชุดผ้าไทย ทำบุญใส่บาตรแด่พระสงฆ์ 30 รูป ภายในโบราณสถานวัดกุฎีดาว ต่อด้วยพิธีการทางสงฆ์และพิธีถวายเทียนจำนำพรรษาแด่พระสงฆ์จาก 9 วัด ได้แก่ วัดประดู่ทรงธรรม วัดมเหยงคณ์ วัดอโยธยา วัดดุสิตดาราม วัดสมณโกฏฐาราม วัดใหญ่ชัยมงคล วัดเกาะแก้ว วัดกล้วย และวัดพนัญเชิงวรวิหาร
หลังจากนั้น ผู้ เข้าร่วมกิจกรรมจะนั่งรถตุ๊กๆ ซึ่งเป็นเอกลักษณ์ ของอยุธยา เดินทางไปไหว้พระขอพรสิ่งศักสิทธิ์ 9 วัดดังแห่งอโยธยา ได้แก่ วัดประดู่ทรงธรรม, วัดมเหยงคณ์ วัดอโยธยา วัดดุสิตดาราม วัดสมณโกฏฐาราม วัดใหญ่ชัยมงคล วัดเกาะแก้ว วัดกล้วย และ วัดพนัญเชิงวรวิหาร
เมื่อเดินทางมาถึงวัดพนัญเชิงวรวิหาร (ท่าน้ำด้านหลัง) จะเป็นช่วงเที่ยง ผู้ร่วมกิจกรรมจะลงเรือล่องนาวาถวายเทียน ร่วมขบวนแห่เทียนพรรษาทางน้ำ ล่องไปตามลำน้ำรอบเกาะเมืองอยุธยาอย่างยิ่งใหญ่และงดงาม พร้อมรับประทานอาหารเที่ยง ชมทัศนียภาพวิถีชีวิตริมสายน้ำ และแวะถวายเทียนจำนำพรรษา ณ วัดท่าการ้อง วัดกษัตราธิราช วัดพุทไธศวรรย์ วัดขุนพรหม และวัดนางกุย ท่านใดที่สนใจสามารถติดต่อสอบถามได้ที่ สมาคมธุรกิจท่องเที่ยวจังหวัดพระนครศรีอยุธยา 06-1569-1932