ข่าวอยุธยา | khaoayutthaya.com | ข่าว | อยุธยา | พระนครศรีอยุธยา | ข่าวด่วน | ข่าวอุบัติเหตุอยุธยา | ข่าวอาชญากรรมอยุธยา | วัดป้อมแก้ว | หลวงพ่อเพิ่ม

ชาวบ้านวอนกรมศิลปากรทบทวนการบูรณะเพนียดคล้องช้างที่มีการตัดเอาหัวเสาตะลุงออก

วันที่ 26 พ.ค. ผู้สื่อข่าวได้รับแจ้งจากชาวบ้าน ใน ต.สวนพริก อ.พระนครศรีอยุธยา จ.พระนครศรีอยุธยา ว่าที่เพนียดคล้องช้าง ทางกรมศิลปากร มีการบูรณะเพนียดคล้องช้าง โดยเสาตะลุงขาดความงดงามไปเพราะถูกตัดเอาหัวเสาออกไปเหมือนเพียงแค่เอาเสาไม้มาปักเอาไว้เท่านั้น จึงเดินทางไปตรวจสอบ

พบว่ามีช่างกำลังเร่งบูรณะปรับปรุงภายในเพนียดคล้องช้าง มีกองเสาตะลุงจำนวนมาก และมีส่วนของหัวเสาที่ตัดออกกองเอาไว้ เสาตะลุงที่ตัดหัวออกปักเอาไว้แล้วจำนวนหนึ่ง และอยู่ระหว่างการปักเสาตะลุง ซึ่งไม่มีหัวเสาเหมือนของเดิมก่อนการบูรณะ มองดูและขัดสายตาไม่งดงาม ส่วนเสาตะลุง ที่บริเวณภายในหน้าพลับพาพระที่นั่ง ที่ตั้งล้อมไว้สำหรับการนำช้างเข้ามาคล้องช้าง ตัวหัวเสาตะลุงจะมีหัวมน แบบของเดิม

นายมนัส เลิศศิริ อายุ 63 ปี นายช่างที่เคยทำการบูรณะเสาตะลุงเมื่อปี2530 กล่าวว่าตนเองเองเคยได้รับงานในการกลึงหัวเสาตะลุงจำนวน 500 ต้น ที่มีการบูรณะเมื่อปี 2530 ตนเองในฐานะเป็นชาวจังหวัดพระนครศรีอยุธยา มาเห็นแล้วรู้สึกเสียใจมากเพราะหมดความงดงามไป เพราะเห็นว่าตะลุงนี้มาตั้งแต่สมัยเด็กว่าสาใหญ่โตมากสวยงามตั้งเรียงรายอย่างสวยงาม นี่เห็นตั้งเสาแล้วมองดูเหมือนเอาท่อนไม้มาปักลงไปในหลุมเท่านั้น ขาดความงดงามไปเปรียบเทียบกับภาพเก่าในอดีตที่มีคนถ่ายภาพและเขียนเอาไว้แล้วเสียความเป็นมรดกโลกไป ใครมาเที่ยวอยุธยา หรือถ้าบอกว่าเพนียดคล้องช้างจะต้องนึกภาพเสาตะลุงหัวมน พอเอาภาพเสาตะลุงที่ไม่มีหัว มีแต่ตอคงคิดว่าไม่ใช่เพนียดคล้องช้างที่อยุธยา

ด้านอาจารย์สายันต์ ขันธนิยม อายุ 63 ปี อดีตข้าราชการบำนาญครูเชียวชาญ เปิดเผยว่าตนเองได้ศึกษาประวัติศาสตร์ความเป็นมาของเพนียดคล้องช้างมา ค้นคว้าหาข้อมูล จากภาพถ่ายและภาพเขียนมีความชัดเจนว่าเสาตะลุง ที่เพนียดคล้องช้าง จะต้องมีลักษณะเป็นเม็ดทรงมัน โดยเฉพาะในการคล้องช้างในรัชกาลที่ 4 และในรัชกาลที่ 5 ปรากฏว่าเสาตะลุงของเพนียดคล้องช้าง มีลักษณะเช่นเดียวกัน ส่วนสาเหตุที่ต้องทำให้เป็นหัวเม็ดทรงมันนั้น เป็นกุศโรบาย ที่นอกจากจะทำให้เสาสวยงามแล้ว เป็นการรักษาสภาพของเสาตะลุงให้คงทนด้วย เพราะหากเป็นเสาปกติเวลาที่ฝนตกลงมาน้ำจะไหลลงไปในตัวไม้ทำให้เกิดความเสียหายได้ จึงได้ทำการกลึงให้หัวเสา มน และยังมีการเอาปูนทาเอาไว้ด้วยป้องกันน้ำไหลลงไปภายในตัวเสา ยังไม่ทราบเหตุผลของทางกรมศิลปากรที่มีการตัดเอาหัวเสาตะลุงออกไปเพื่ออะไร หมดความสวยงามไป

ด้านนายสันต์ ขันธนิกร อายุ 49 ปี ชาวบ้านทีอาศัยอยู่ติดกับเพนียดคล้องช้างกล่าวว่า ตนเองเติบโตมาจำความได้ก็เห็นเสาตะลุง มาแล้ว สวยงามดีพอเห็นว่ามีการบูรณะปรับปรุงเพนียดคล้องช้างดีใจจะได้เห็นเพนียดคล้องช้างมีความสวยงาม แต่มาเห็นปักเสา แล้วเสาเตะลุงถูกตัดเอาหัวเสาออกไป รู้สึกสะเทือนใจทีความงดงามมันหายไป อยากให้มีการทบทวนแก้ไขให้กลับมาเหมือนเดิม

สำหรับเพนียดคล้อง ทาง กรมศิลปากรได้จัดสรรงบประมาณ จำนวนกว่า 35 ล้านบาท ในการบูรณะเพนียดคล้องช้าง ทำการซ่อมแซมพลับพลาที่ประทับที่ใช้ในการทอดพระเนตรการคล้องช้าง ศาลปะกำ และเสาตะลุงรอบเพนียดคล้องช้าง จำนวนกว่า 800 ต้น เริ่มทำการบูรณะเมื่อเดือน พ.ค.2561 เพนียดคล้องช้าง เป็นโบราณสถานที่สำคัญทางประวัติศาสตร์ชาติไทยอยู่ บนพื้นที่มรดกโลก ซึ่งปัจจุบันขึ้นทะเบียนโบราณสถานต่อกรมศิลปากร




คุณอาจสนใจข่าวนี้

error: เนื้อหา และภาพข่าวมีลิขสิทธิ์ห้ามนำไปเผยแพร่โดยไม่ได้รับอนุญาติ