โจรงัดตู้เอทีเอ็มท้องรถติดเร่งเครื่องจะหนีเกิดไฟลุกท่วมหอบเงินกว่า 2 ล้านบาทหลบหนี
เมื่อช่วงเวลา 06.00. วันที่ 6 ก.ค. พล.ต.ต สมชาย พัชรอินโต รอง ผบช.ภ. 1 พล.ต.ต อำนาจ จันเจริญ รอง ผบช.ภ.1 พล.ต.ต.สมหมาย ประสิทธิ์ ผบก. พ.ต.อ.ภัทรภัทร นุชยวง ผกก.สส. ภ.จว.พระนครศรีอยุธยา พ.ต.อ เอกราช อุ่นเจริญ ผกก พ.ต.ท.เชิงชาย พงษ์แขก รอง ผกก.สภ.วังน้อย จ.พระนครศรีอยุธยา พร้อมกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน เข้าตรวจสอบรถยนต์กระบะ มิตซูบิชิ สีบอรน มีโครงหลังคาเหล็ก ไม่ทราบหมายเลขทะเบียน ถูกเพลิงไหม้ได้รับความเสียหายทั้งคัน บริเวณริมถนนเลียบคันคลอง ม.6 ต.ลำไทร อ.วังน้อย จ.พระนครศรีอยุธยา สภาพท้องรถติดกับขอบถนน หลังกระบะพบว่าเป็นรถยนต์ที่ติดตังแก๊ส ถอดถังแก๊สออก ภายในบริเวณใกล้เคียงพบกล่องบรรจุเงินของตู้เอทีเอ็มถูกทิ้งอยู่ในบ่อน้ำ จำนวน 4 กล่อง บนพื้นถนนพบรอยน้ำมันเครื่องหยดเป็นทาง
จากการตรวจสอบพบว่าเป็นรถยนต์กระบะคันที่ก่อเหตุงัดตูเอทีเอ็ม จำนวน 2 ตู้ จากลาน จอดรถของร้านอาหารลุงนวย ริมถนนพหลโยธิน ขาเข้ากรุงเทพมาหานคร ม.2 ต.ลำไทร อ.วังน้อย จ.พระนครศรีอยุธยา
ไปตรวจสอบที่บริเวณลานจอดรถของร้านอาหารลุงนวย ห่างจากจุดที่พบรถถุกไฟไหม้ประมาณ 6 กิโลเมตร พบว่าตู้เอทีเอ็มของธนาคาร กรุงเทพ พบว่าคนร้ายได้ใช้แก๊สประตู ด้านหลังของตู้และเจาะประตูช่องเก็บเงิน เข้าไปขนเอา กล่องเก็บเงินออกไป ที่พื้นพบธนบัตรฉบับละ1,000 บาทตกอยู่ ส่วนตู้เอทีเอ็มของธนาคารไทย พาณิชย์ มีร่องรอยถูกใช้แก๊สฝาเปิด ประตูด้านหลังของตู้เอทีเอ็ม และร่อยรอยการใช้แก๊สตัดฝาปิดช่องเก็บเงินแต่ยังไม่สามารถเปิดได้ กล้องวงจรปิดของร้านอาหารที่ส่งมาที่บริเวณถูกงัดขึ้น
จากการสอบสวนพยานรายหนึ่งที่จะเข้ามากดเงินที่ตู้เอทีเอ็มเมื่อเวลาประมาณ 02.00 น.เห็นคนร้ายจำนวน 2 คน คนแรกลักษณะผมฟู สวมเสื้อยืดสีดำนั่งที่เก้าอี้อยู่ตรงใกล้ตู้เอทีเอ็ม และคนร้ายอีกคนลักษณะผมเกรียนยืนอยู่ท้ายรถกระบะ ลักษณะเดียวกับที่ถูกเผา จอดหลังตู้เอทีเอ็ม จากนั้นคนร้ายที่นั่งเก้าอี้ได้ส่งเสียง กระแอม เหมือนขุมขู่ จึงไมได้เข้ามากดเงิน รีบออกจากจุดเกิดเหตุทันที
พล.ต.ต สมชาย พัชรอินโต รองผบช.ภ.1 กล่าวว่า พอจะทราบข้อมูลของกลุ่มคนร้ายแล้ว น่าจะมีมากกว่า 2 คน ได้ตระเวนก่อเหตุในพื้นที่ จ.สระบุรี จ.ลพบุรี จ.พระนครศรีอยุธยา ซึ่งมีพยานหลักฐานพฤติกรรม ตรงกัน จะเร่งสืบสวนติดตามกลุ่มคนร้าย
รายงานข่าวจากชุดสืบสวนทราบผู้ครองครอบรถแล้วอยู่ระหว่างติดตามตัวมาสอบสวน ในเบื้องต้นสันนิษฐานว่าคนร้ายได้ก่อเหตุงัดตู้เอทีเอ็มสำเร็จ1ตู่อยู่ระหว่างจะงัดอีก1ตัวแต่มีคนมาเห็นจึงรีบหลบหนีก่อนแล้วเข้าไปในจุดที่พบรถยนต์กระบะถูกเผาซึ่งเป็นที่เปลี่ยวเพื่อแกละกล่องเก็บเงินเมื่อได้เงินแล้วจะขับรถเพื่อหลบหนีแต่ท้องของรถยนต์กระบะเกิดติดกับขอบถนนขึ้นไม่ได้คนร้ายจึงพยายามเร่งเครื่องเกิดการเสียดสีจนเพลิงลุกไหม้คนร้ายจนทิ้งหลบนำเงินหลบหนีไป แก๊งคนร้ายแก๊งนี้มีความชำนาญในการใช้อุปกรณ์เชื่อมตัดด้วยแก๊ส และเลือกก่อเหตุกับตู้เอทีเอ็มที่เป็นตู้ลอยไม่ได้ฝังกับตัวอาคาร ซึ่งจะทำการตัดและเจาะได้ง่ายกว่า โดยคนร้ายแก๊งนี้เมื่อวันที่ 25 มิ.ย.ก่อเหตุตู้เอทีเอ็มในตลาดวังน้อย ไม่ได้เงินไป และวันที่ 27 มิ.ย.ไปก่อเหตุในพื้นที่ จ.สระบุรี ไม่ได้เงินไป ล่าสุดเมื่อวันที่ 29 มิ.ย.ก่อเหตุในพื้นที่ จ.ลพบุรี ได้เงินสดประมาณ 1 แสนบาท