ตลิ่งทรุดตัวทำศาลาเอนกประสงค์วัดต้นสะตือพังถล่มลงไปในแม่น้ำลพบุรี
ข่าวอยุธยา วันที่ 17 ก.พ.ผู้สื่อข่าวได้รับแจ้งเกิดเหตุศาลาเอนกประสงค์ ของวัดต้นสะตือ ต.ขยาย อ.บางปะหัน จ.พระนครศรีอยุธยา พังถล่มลงไปในแม่น้ำลพบุรี จึงเดินทางไปตรวจสอบ
พบชาวบ้านพระสงฆ์จำนวนมากกำลุงมุงดูสภาพของศาลาเอนกประสงค์ขนาดใหญ่ทีติดกับกุฎิพระสงฆ์ พังถล่มลงไปในแม่น้ำลพบุรีครึ่งหลัง ตัวพื้นศาลาเอนกประสงค์ทรุดตัวลงไปในแม่น้ำลพบุรีประมาณ 10 เมตร นอกจากนี้ยังพบว่าเขื่อนของวัดที่กำลังก่อสร้างระยะทางยาวประมาณ 80 เมตร พังเสียหาย ศาลาท่าน้ำทรงไทยจุดที่ให้บริการให้อาหารปลาของวัดจมหายไป
เจ้าหน้าที่ฝ่ายป้องกันอำเภอบางปะหัน เจ้าหน้าที่ฝ่ายป้องกัน อบต.ขยาย เข้ามาตรวจสอบความเสียหายพร้อมปิดกั้นพื้นที่อันตรายห้ามเข้าไปในบริเวณที่เกิดเหตุ
พระณัฐพล กูลเสือ อายุ 25 ปี พระลูกวัดต้นสะตือ เปิดเผยว่าเมื่อเวลาประมาณ 00.30 น. ศาลาทรงไทยริมแม่น้ำนอกแนวเขื่อนทรุดตัวพังลงไป จากนั้นเวลาประมาณ 01.00 น. ได้ยินเสียงโครงหลังคาศาลาเอนกประสงค์ ดังพรึบๆ จากนั้นตัวศาลาพังครืนลงไปทั้งหลัง ท่านเจ้าอาวาสได้ประกาศเสียงตามสายปลุกพระและชาวบ้านให้มาช่วยกันขนข้าวของ ที่เก็บอยู่ใกล้กับศาลาออกทั้งหมด
พระปลัดเพลิน วิสุทโธ พระลูกวัดต้นสะตือ และ เลขารองเจ้าคณะอำเภอบางปะหัน กล่าวว่า ศาลาอเนกประสงค์นี้สร้างมาได้ประมาณ 1 ปี ส่วนตัวเขื่อนอยู่ระหว่างการสร้าง ก่อนหน้าที่จะมาเกิดเหตุ ระดับน้ำในแม่น้ำลพบุรีลดตัวลงอย่างมาก ในเบื้องต้นสาเหตุน่าจะเกิดจากการที่น้ำระดับลงจนทำให้ตลิ่งเกิดการทรุดตัวดึงเอาตลิ่งพังลงไปทั้งหลัง ต้องรอให้ผู้เชี่ยวชาญเข้ามาสำรวจเพื่อสาเหตุอีกครั้ง เร่งรื้อถอนตัวโครงหลังคาและส่วนของศาลาที่ยังเหลืออยู่ออก จึงอยากบอกบุญรถเครน หรือผู้เชี่ยวชาญมาช่วยรื้อถอนให้กับทางวัดด้วย