รถยนต์บรรทุก 22 ล้อทับ รถจักรยานยนต์ดับคาที่ 2 ศพบาดเจ็บ 2 ราย
ข่าวอยุธยา เมื่อเวลา 07.00 น วันที่ 2 ก.พ. ร.ต.อ.เชวงศักดิ์ บำรุงนอก รอง สว.สอบสวน สภ.เสนา จ.พระนครศรีอยุธยา ได้รับแจ้งเกิดอุบัติเหตุรถยนต์บรรทุก 22 ล้อเฉี่ยวชนกับรถจักรยานยนต์ 2 คัน มีผู้เสียชีวิต 2 ราย บนถนนสายเสนา-ปทุมธานี บริเวณสะพาน ก่อนถึง โรงงานเครื่องมือแพทย์ หมู่ที่ 8 ต.บางนมโค อ.เสนา จ.พระนครศรีอยุธยา ไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ พร้อมด้วย แพทย์เวรโรงพยาบาลเสนา มูลนิธิพุทไธสวรรย์
ที่เกิดเหตุเป็นสะพานข้ามคลอง พบรถยนต์บรรทุก 22 ล้อ หมายเลขทะเบียน 70-2661 พระนครศรีอยุธยา ตัวลูก หมายเลขทะเบียน 71-0411 พระนครศรีอยุธยา สภาพด้านหน้าขวาพังยับ ใต้ท้องรถพบรถจักรยานยนต์ ฮอนด้า เวฟ สีดำแดง หมายเลขบ้ายเหลือง 1 กก 1089 พระนครศรีอยุธยา สภาพพังยับเยิน ที่บริเวณล้อด้านขวาของตัวพ่วงรถยนต์บรรทุกพบศพนายสุรินทร์ ทรงเจริญ อายุ 50 ปี
ใกล้กันพบรถจักรยานยนต์ ยามมาฮ่า สีน้ำเงินหมายเลขทะเบียน 1 กฒ 8076 พระนครศรีอยุธยา ล้มอยู่ ใกล้กันพบศพนางสาวนฤมล ธาราพิตร์ อายุ 42 ปี ส่วนผู้บาดเจ็บ 2 รายมีผู้ช่วยเหลือนำส่งโรงพยาบาลเสนา ทราบชื่อต่อมา น.ส.นุชจรีย์ สอนเกตุ อายุ 25 ปี น.ส.สายรุ้ง เจริญผล อายุ 25 ปี
สอบสวนนายสมพงษ์ นพเก้า อายุ 41 ปี คนขับรถยนต์บรรทุก 22 ล้อ อ้างว่า ตนเองขับรถมาจาก จ.ปทุมธานี มุ่งหน้าไป อ.เสนา เมื่อมาถึงบริเวณที่เกิดเหตุ รถจักรยานยนต์ของผู้เสียชีวิตทั้ง 2 ราย ซ้อนท้ายกันขี่ออกมาจากซอย ก่อนข้ามสะพานแล้วเสียหลัก พุ่งมาชนที่หน้ารถของตนเอง จนทับร่าง ทั้ง 2 ราย ตนพยายามจะหักหลบแต่ไม่หลบไม่ได้เนื่องจากสะพานมีความแคบ จากนั้นมีรถจักรยานยนต์อีกคันวิ่งสวนทาง หักหลบผู้เสียชีวิตจนล้ม ได้รับบาดเจ็บอีก 2 ราย
ร.ต.อ.เชวงศักดิ์ กล่าวว่า จากการสอบสวน ผู้ขับขี่รถยนต์บรรทุกในเบื้องต้น อ้างว่า เมื่อมาถึงบริเวณที่เกิดเหตุรถจักรยานยนต์ซึ่งเป็นสามีภรรยากันวิ่งสวนทางมา มีสามีเป็นผู้ขับขี่ภรรยาซ้อนท้ายมา รถจักรยานยนต์ เลี้ยวออกมจากซอย เกิดเสียหลักพุ่งเข้ามาชนที่รถบรรทุกแล้วถูกทับเสียชีวิต ส่วนผู้หญิงที่ซ้อนท้ายที่ชีวิตกระเด็นออกไป จังหวะนั้น รถจักรยานยนต์ของผู้บาดเจ็บขับมาพอดีเบรกไม่ทัน จึงเสียหลักล้มได้รับบาดเจ็บ 2 ราย
ซึ่งจะต้องทำการสอบสวนผู้บาดเจ็บอย่างละเอียดอีกครั้ง พร้อมทั้งสืบสวนหาพยานที่เห็นเหตุการณ์มาทำการสอบสวน พร้อมทั้งประสานเจ้าหน้าที่ตำรวจพิสูจน์หลักฐาน มาทำการตรวจสอบร่องรอยการเฉี่ยวชน เพื่อสรุปหาสาเหตุของการเกิดอุบัติเหตุอีกครั้ง
