หนุ่มใหญ่หายหน้าไป แม่มาพบผูกคอตายอยู่หลังบ้าน คาดเครียดปัญหาส่วนตัว
ข่าวอยุธยา วันที่ 25 ม.ค. ร.ต.อ.อิสรพงษ์ มงคลสิน รองสว.สอบสวน สภ.เสนา จ.พระนครศรีอยุธยา ได้รับแจ้งมีชายผูกคอตนเองเสียชีวิต ภายในบ้านเลขที่ 22/4 ม.7 ต.บ้านแพน อ.เสนา จ.พระนครศรีอยุธยา ไปตรวจสอบที่เกิดเหตุพร้อมด้วยแพทย์เวรโรงพยาบาลเสนา และเจ้าหน้าที่สมาคมอยุธยารวมใจ
ที่เกิดเหตุเป็นบ้านไม้ใต้ถุนสูง บริเวณด้านหลังของบ้านพบศพนายเกษม ดวงดี อายุ 46 ปี ใช้เชือกไนลอนผูกคอตนเองกับโครงเหล็กชายคาบ้าน สภาพศพอยู่ในลักษณะนั่งห้อยตัว ลงมาลิ้นจุกปาก
สวมใส่เสื้อลายสก๊อตสีน้ำเงินแขนยาว กางเกงยีนส์ขาสั้น สวมรองเท้าบูทชาวนายาวถึงหัวเข่า ตามร่างกายไม่พบร่องรอยการต่อสูงหรือถูกทำร้ายแต่อย่างใด
สอบถามนางทองใบ ดวงดี อายุ 75 ปี แม่ของผู้ตาย ทราบว่า ผู้เสียชีวิตเคยเป็น สมาชิกอบต.บ้านแพน แต่ออกมาหลายปีแล้ว ผู้เสียชีวิตไม่เคยพูดบ่นเรื่องปัญหาความเครียดอะไรให้ให้ฟังเลย ทุกวันจะต้องออกไปทำนาแต่เช้า
เมื่อช่วงเย็นวันที่ 24 ม.ค.ผู้ตายได้ขอเงินพ่อไป 700 บาท แล้วหายออกจากบ้านไป หลังตากนั้นไม่เจอผู้เสียชีวิตอีกเลย คิดว่าผู้เสียชีวิตคงกลับเข้าห้องนอนแล้วตอนดึก ปกติผู้เสียชีวิตเวลาที่เข้านอนแล้ว จะไม่มีใครกล้าเรียกผู้เสียชีวิต เพราะถ้าเรียกนั้นผู้เสียชีวิตจะโวยวายและอาละวาด มาเมื่อช่วงเช้า ตนได้เดินลงมาเก็บบ้านก็เห็นว่ารถจยย.ของผู้ตายยังจอดอยู่ที่บ้าน
ผู้ตายคงจะอยู่ในห้อง ตนเดินไปที่หลังบ้าน เห็นลูกชายนั้นนั่งอยู่จึงถามว่าไม่ออกไปทำนาหรือ ไม่ยอมตอบจึงเดินเข้าไปดูใกล้ๆพบว่าผูกคอเสียชีวิตแล้ว ตกใจมากทำอะไรไม่ถูก ได้แต่เรียกเพื่อนบ้านมาช่วยเหลือ และแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจ
นางทองใบ เล่าต่ออีกว่า ก่อนหน้านี้ลูกชายติดยาบ้า ถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจจับและพาไปบำบัดรักษาตัวมาหลายครั้งแต่กลับไปเสพยาบ้าอีก เคยเตือนให้เลิกเสพไม่ให้ยุ่งเกี่ยว แต่ก็ไม่เลิก
ด้านเจ้าหน้าที่ตำรวจมีข้อมูลประวัติของผู้เสียชีวิตถูกนำตัวไปบำบัดยาเสพติดหลายครั้งแต่ไม่สามารถเลิกยาเสพติด กลับมาเสพยาบ้าอีก ล่าสุดในพื้นที่อำเภอเสนา มีการจัดทำโครงการปักกลด ของตำรวจภูธรภาค1 ในการส่งเจ้าหน้าที่ตำรวจไปอยู่ในชุมชน ทำความเข้าใจกับชาวบ้านถึงโทษภัยของยาเสพติด และกดดันกลุ่มผู้เกี่ยวข้องยาเสพติด ผู้เสียชีวิต เกิดความเครียดเกรงว่าจะถูกนำตัวไปบำบัดยาเสพติดอีก หรือมีความเครียดเรื่องส่วนตัวที่ไม่ได้บอกกับใครในครอบครัว เจ้าหน้าที่ตำรวจจะต้องทำการสอบสวนอย่างละเอียดอีกครั้ง ส่วนศพผู้เสียชีวิต ได้ส่งไปชันสูตรที่สถาบันนิติเวช โรงพยาบาลธรรมศาสตร์ เฉลิมพระเกียรติ จ.ปทุมธานี เพื่อหาสาเหตุการตายอย่างละเอียดอีกครั้ง