รถบรรทุกเลี้ยวเกี่ยวรถจักรยานยนต์ล้มทับร่างหนุ่มโรงงานเสียชีวิตกลางสี่แยก
วันที่ 14 ธ.ค.ร.ต.ต.อิสรพงษ์ มงคลสิน รองสว.สอบสวน สภ.เสนา จ.พระนครศรีอยุธยา ได้รับแจ้งเกิดอุบัติเหตุรถยนต์เฉี่ยวชนรถจักรยานยนต์ มีผู้เสียชีวิต 1 รายบริเวณสี่แยกเสนา-ปทุมธานี ต.บางนมโค อ.เสนา จ.พระนครศรีอยุธยา ไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ พร้อมแพทย์เวรโรงพยาบาลเสนา เจ้าหน้าที่สมาคมอยุธยารวมใจ จุดเสนา
บริเวณสี่แยกช่วงทางเลี้ยวมาจากปทุมธานี มุ่งหน้าเข้าตัวอำเภอเสนา พบรถจักรยานยนต์ หมายเลขทะเบียนฮ้อนด้า เวฟ สีน้ำเงินดำ หมายเลขทะเบียน 1 กค 7927 พระนครศรีอยุธยา ล้มคว่ำอยู่ ใกล้กับพบศพนายสุรพล ทับอุ่นญาติ อายุ 46 ปี ชาว อ.บางบาล จ.พระนครศรีอยุธยา เป็นพนักงานโรงงานอุตสาหกรรม สภาพศพแขนขาหัก ศรีษะยุบ เลือดไหลนองพื้นถนน
ส่วนรถยนต์บรรทุกพ่วง 18 ล้อหลบหนี มีพลเมืองดีติดตามไปควบคุมตัวเอาไว้ได้ที่บริเวณถนนอยุธยา-สุพรรณบุรี ห่างจากจุดเกิดเหตุประมาณ 3 กิโลเมตร เป็นรถยนต์บรรทุกพ่วง 18 ล้อ ตัวแม่หมายเลขทะเบียน 82-6589 ปทุมธานี ตัวลูกหมายเลขทะเบียน 82-6590 ปทุมธานี มีนายวุฒิชัย คงลา อายุ 28 ปี คนขับรถยนต์บรรทุก อยู่ในอาการตกใจ เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงควบคุมตัวไปสอบสวน ที่สภ.เสนา
นายวุฒิชัย คงลา อายุ 28 ปี คนขับรถบรรทุกพ่วง ขับมาจากอ.สามโคก จงปทุมธานี เพื่อ ไปขึ้นทราย ที่ อ.บางซ้าย เมื่อมาถึงบริเวณสี่แยก มองไม่เห็นว่ามีรถจักรยานยนต์ขับเข้าโค้งตามมา จึงทับร่างจนเสียชีวิต ที่จอดดูแล้วขับรถออกมาไม่ได้มีเจตนาที่จะหลบหนีพอดีโทรศัพท์แบตหมด ฝากเพื่อนที่ขับรถบรรทุกอีกคันเอาไว้รีบขับตามเพื่อนไปเอาโทรศัพท์ จนมีคนขับติดตามทันพอดี
นายโชติ พุฒิฤทธิ์ อายุ 33 ปี เจ้าหน้าที่อาสาสมัคร มูลนิธิพุทไธสวรรย์ จุดเสนา ที่ขับรถตามหลังมาเห็นเหตุการณ์พอดีและขับติดตามรถยนต์บรรทุกไป กล่าวว่าตนเองขับตามหลังรถยนต์บรรทุก พ่วง จังหวะที่รถยนต์บรรทุกเลี้ยวซ้ายรถจักรยานยนต์ขับตามไปด้านข้างรถพอดีจึงเกิดการเฉี่ยวชนคนขับร่างกระเด็นเข้าไปท้องรถบรรทุกถูกทับร่างจนเสียชีวิต ตนจึงได้จอดแล้วเห็นว่ารถยนต์บรรทุกจอด จากนั้นได้ขับออกจากจุดเกิดเหตุไปตนจึงรีบขับไปติดตามเอาไว้ได้ทันพร้อมกับแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจให้มาควบคุมตัว
จากการตรวจสอบภาพจากกล้องหน้ารถพบว่า จังหวะที่รถยนต์บรรทุกพ่วงเลี้ยวซ้ายรถจักรยานยนต์เลี้ยวซ้ายพอดีเกิดการเฉี่ยวชนกัน ผู้ขับขี่รถจักรยานยนต์กระเด็นเข้าไปอยู่ใต้ท้องรถยนต์บรรทุกถูกทับร่างจนเสียชีวิต
ด้านเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้ควบคุมตัวคนขับรถยนต์บรรทุกไว้ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป