ตลิ่งริมแม่น้ำเจ้าพระยาทรุดต่อเนื่องต้องรื้อบ้านหนี
ข่าวอยุธยา วันที่ 17 ต.ค. ผู้สื่อข่าวได้รับแจ้งจากชาวบ้านใน ต.บ้านกุ่ม อ.บางบาล จ.พระนครศรอยุธยา ต้องเร่งรื้อถอนบ้านที่ปลูกอยู่ริมแม่น้ำเจ้าพระยา ที่ตลิ่งกำลังทรุดตัวเพิ่มอีกครั้ง จึงเดนทางไปตรวจสอบพบนางอุ่นเรือน ดนตรี อายุ 60 ปี พร้อมด้วยช่างต้องเร่งรื้อถอนบ้านทรงไทย อายุ 150 ปี เลขที่ 21 ม.7 ต.บ้านกุ่ม อ.บางบาล จ.พระนครศรีอยุธยา ที่ปลูกอยู่ริมตลิ่งติดกับแม่น้ำเจ้าพระยา ก่อนที่พังลงไปในแม่น้ำทั้งหลัง สืบเนื่องจากตลิ่งที่ทรุดตัวต่อเนื่องมาตั้งแต่ช่วงเดือนเมษายนที่ผ่านมา จนทาง นายสุจินต์ ไชยชุมศักดิ์ ผวจ.พระนครศรีอยุธยา สั่งเร่งให้การช่วยเหลือบรรเทาความเดือดร้อน ด้วยการนำเข็มไม้มาตอกป้องกันการทรุดตัวชั่วคราวระหว่างรอการสร้างเขื่อนป้องกันถาวร มีการชี้แจ้งถึงการสร้างเขื่อนเกิดความล่าช้าเนื่องจากมีการปรับแบบเขื่อนเพื่อให้เหมาะกับพื้นที่และความต้องการของชุมชนด้วย
นางอุ่นเรือน ดนตรี อายุ 60 ปี กล่าวว่า ตลิ่งมาทรุดตัว อีกครั้ง เมื่อวันที่ 1 ตุลาคา ที่ผ่านมาดินเกิดการทรุดตัวใต้ดินทำให้พื้นบ้านทรุดตัวลงไปประมาณ 30 เซนติเมตร ส่งผลให้บ้านของตนเองและบ้านที่ปลูกติดกัน จำนวน 3 หลังได้รับผลกระทบ ทรุดตัวด้วย เกรงว่าจะได้รับความเสียหานจึงต้องรื้อบ้านทรงไทยโบราณอายุกว่า 150 ปี ออกเพื่อไม่ให้เสียหาย
ขณะที่บ้านของนางสาวพิจิตรา ขันเพชร อายุ 23 ปี บ้านที่อยู่ติดกันได้รับความเดือนร้อนเช่นกันเสาบ้านที่อยู่ริมน้ำทรุดตัวไป4ต้น แผ่นปูนแตกร้าวลึกกว่า 20 เซนติเมตร ได้รับความเสียหายในขณะนี้ต้องรื้อบันใดบ้านไปไว้หลังบ้านแทน และต้องเฝ้าดูสถานการณ์ หากมรการทรุดต่อเนื่องจะต้องรื้อบ้านออกก่อน
ส่วนนางสมจิตร อัตตะสาระ อายุ 71 ปี ชาวบ้านอีกรายที่ได้รับผลกระทบ กล่าวว่าตนเองเองต้องฝ้าระวังอย่างมากไม่ได้หลับไม่ได้นอนต้องคอดูว่าบ้านจะทรุดตอนไหน ตอนนี้ไม่มีที่จะอยู่แล้ว ได้แต่รอว่าทางราชการจะมาทำเขื่อนให้ตอนไหน ขอให้มาก่อนที่บ้านจะพังลงน้ำไปจนไม่มีที่อยู่