เมื่อเวลา 18.30 น. วันที่ 23 มี.ค. 68 ร.ต.อหญิง นิลาวัณย์ สนแก้ว รอง สว.(สอบสวน) สภ. พระอินทร์ราชา จ.พระนครศรีอยุธยา ได้รับแจ้งเหตุมีคนร้ายใช้อาวุธปืนชิงทองรูปพรรณ หนัก 160 บาท ภายในร้านห้างทองเยาวราชเอเชีย ตั้งอยู่ภายในห้างสรรพสินค้าโลตัส สาขาบางปะอิน ริมถนนสายเอเชียออก หลัก กม. ที่ 1 ต.เชียงรากน้อย อ.บางปะอิน จ.พระนครศรีอยุธยา แล้วหลบหนีไป จึงรุดไปตรวจสอบ พร้อมด้วย พ.ต.อ.สุรพจน์ รอดบำรุง ผบก.ภ.จว.พระนครศรีอยุธยา พ.ต.อ.ภูมิธัช โฆษิตวนิชพงศ์ รอง ผบก.ภ.จว.พระนครศรีอยุธยา พ.ต.อ.ชนันท์ เปรมปลื้มจิตต์ ผกก.สภ.พระอินทร์ราชา เจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐาน และเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน
ที่เกิดเหตุเป็นร้านทองเยาวราช เอเชีย พบพนักงานของร้านยืนอยู่ในอาการตกใจ กำลังเก็บทองรูปพรรณที่เหลืออยู่ พร้อมกับตรวจสอบจำนวนทองรูปพรรณ ลักษณะของทองรูปพรรณที่คนร้ายชิงได้ไป พร้อมให้ข้อมูลกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ เจ้าหน้าที่ตำรวจพิสูจน์หลักฐาน ได้ตรวจสอบร่องรอยนิ้วมือแฝง เก็บดีเอ็นเอ ของคนร้ายที่อยู่บริเวณตู้กระจกโชว์ทอง
จากการตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิด พบว่าคนร้ายเป็นชาย สูงประมาณ 170 เซ็นติเมตร ใส่หมวกสีเขียวแบบมีผ้ากันแดดปิดบังใบหน้า เสื้อแจ็คเก็ตสีดำ กางเกงขายาวสีเทา รองเท้าผ้าใบสีดำ ในมือขวาถือถุงผ้าสีขาว เดินตรงข้ามจากประตูของห้าง ตรงมาที่ร้านทอง อ้อมเข้าด้านข้างร้าน ทำท่าชักอาวุธปืนจากเอว โผล่มาให้พนักงานของร้านทองเห็นแล้วข่มขู่ให้หยิบทองรูปพรรณที่โชว์อยู่ในตู้ ใส่ถุงผ้าเตรียมมา จากนั้นคนร้ายเดินออกจากห้างหลบหนีไปอย่างใจเย็น ใช้เวลาไม่ถึง 1 นาที
จากการตรวจสอบพบว่าทองรูปพรรณที่คนร้ายได้ไป เป็นสร้อยคอน้ำหนัก 20 บาท 3 เส้นสร้อยคอน้ำหนัก 15 บาท 2 เส้นสร้อยคอหนัก 10 บาท 7 เส้น น้ำหนักรวมประมาณ 160 บาท มูลค่ากว่า 7.8 ล้านบาท
สอบถามพนักงานสาวขายทองภายในร้าน เล่าว่า ตอนนั้นตนยืนขายของอยู่ตรงหลังเคาน์เตอร์แล้วมีคนร้ายเป็นชายใส่หมวกปิดบังใบหน้าสวมถุงมือสีขาวเดินเข้ามาด้านข้างของร้านแล้วเดินเข้ามาด้านเคาน์เตอร์ จากนั้นก็ควักปืนที่เอวออกมาบอกให้ตนเงียบแล้วให้ตนหยิบทองรูปพรรณที่อยู่ในตู้ส่งให้คนร้าย จากนั้นพอได้ทองรูปพรรณแล้วก็เดินหนีออกจากห้างไปขึ้นรถจักรยานยนต์รับจ้างหลบหนี ตอนนั้นทุกคนในร้านก็ตกใจทำอะไรไม่ถูก
สอบถามพนักงาน ของห้างสรรพสินค้า บอกว่า ตอนนั้นตนกำลังเดินเก็บรถเข็นอยู่บริเวณใกล้กับห้างทองแล้วได้ยินเสียงมีคนตะโกนบอกคนร้ายมาปล้นร้านทองแล้วกำลังจะหลบหนีจึงวิ่งไล่ตาม คนร้ายซึ่งใส่หมวกปิดบังใบหน้าสวมถุงมือวิ่ง ออกไปทางประตูด้านหน้า จากนั้นคนร้ายเห็นตนจึงควักปืนออกมาจากเอวแล้วมาจ่อตนจึงหลบหาที่กำบัง จากนั้นเห็นคนร้ายขึ้นซ้อนท้ายรถจักรยานยนต์รับจ้างหลบหนีไป ตนก็ไม่ได้ตามต่อ โชคดีที่คนร้ายไม่ได้ใช้อาวุธปืนยิงใส่
ด้าน พ.ต.อ.ชนันท์ เปิดเผยว่า จากการสอบสวนพยานและตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิดในเบื้องต้น ทราบว่าคนร้ายเข้ามาก่อเหตุเพียงคนเดียว เดินเท้ามาทางเข้าของห้างริมถนนสายเอเชีย แล้วเดินเข้ามาที่ประตูที่ 1 ของห้าง ตรงเข้าไปก่อเหตุชิงทองรูปพรรรที่ร้านทองแล้วหลบหนีออกมา ว่าจ้างให้รถจยย.รับจ้างไปส่งที่ริมถนนสายเอเชียทางเข้าจุดพักรถโปรโตโก ห่างจากห้างสรรพรสินค้า 2 กิโลเมตร ขณะนี้อยู่ระหว่างการตรวจสอบว่า คนร้ายใช้ยานพาหนะชนิดใดหลบหนีต่อไป เพื่อเร่งติดตามคนร้ายมาดำเนินคดี.
วันที่ 2…