หนุ่มอ้างโมโหสาว ยืมเงินแล้วไม่คืน คว้ามีดแทงดับ ลากศพหมกป่า

เมื่อวันที่ 10 มี.ค.68 พ.ต.อ.สมเจษฐ์ แม้นบุตร ผกก.สภ.วังน้อย จ.พระนครศรีอยุธยา เปิดเผยว่า ช่วงเวลา 23.00 น. วันที่ 9 มี.ค. รับแจ้งมีประชาชนพบรถรถจักรยานยนต์ สีน้ำเงินขาว ตกอยู่ในคลองชลประทาน ต.ลำตาเสา อ.วังน้อย จ.พระนครศรีอยุธยา ตรวจสอบชื่อผู้ครอบครองรถ เป็นคนไทย ได้ให้ น.ส.ซาซ่า สาวเมียนมา อายุ 30 ปี เป็นพนักงานโรงงานแห่งหนึ่งใน อ.วังน้อย ซึ่งหายตัวออกไปจากที่พัก ไปพบกับ นายปาย อ่อง ชิด อายุ 23 ปี ชาวเมียนมา
ตำรวจจึงไปเชิญตัวนาย ปาย อ่อง ชิด มาทำการสอบสวน และยอมรับสารภาพว่า ได้ใช้อาวุธมีดแทง น.ส.ซาซ่า จนเสียชีวิต แล้วนำศพไปโยนทิ้งไว้ในป่ากกข้างทาง ใกล้กับจุดที่พบรถอยู่ในคลองชลประทาน
นายปาย อ่อง ชิด พาตำรวจ เจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานพระนครศรีอยุธยา ไปชี้จุดที่ทิ้งศพ พร้อมประสาน ขอกำลังเจ้าหน้าที่ มูลนิธิพุทไธสวรรย์ ไปค้นหาพบร่างของน.ส.ซาซ่า ในป่ากก มีบาดแผลถูกแทงด้วยอาวุธมีดแทงตามร่างกาย 5 แผล
จากการสอบสวนนายปาย อ่อง ชิด ผู้ต้องหา ยอมรับสารภาพว่า คบหากับผู้เสียชีวิตได้ประมาณ 1 เดือน ผู้เสียชีวิตขอยืมเงินไป 5,000 บาท คืนวันเกิดเหตุผู้เสียชีวิตนัดให้ไปพบ คิดว่าผู้เสียชีวิตจะนำเงินมาคืน จึงออกไปหาตามที่นัด ผู้เสียชีวิตขี่รถมาพูดคุยกันอยู่ จนเกิดการโต้เถียงมีปากเสียงกัน ผู้เสียชีวิตแย่งเอาโทรศัพท์ของตนไปแล้วลบข้อมูลในโทรศัพท์ แล้วขว้างโทรศัพท์ของตนลงกับพื้น จนเกิดความโมโห
นายปาย อ่อง ชิด อ้างว่า ระหว่างที่โต้เถียงกัน ผู้เสียชีวิตคว้าเอามีดที่พกติดตัวไป จนเกิดการยื้อแย่งกัน จนมีดบาดที่มือ จคงแย่งมีดมาได้ ผู้เสียชีวิตกัดที่มือซ้ำอีก จึงใช้อาวุธมีดแทงที่ตามร่างกายของผู้เสียชีวิต จนแน่นิ่งไป แล้วลากลงไปในป่ากกข้างทางจับกดน้ำ แล้วเข็นรถจยย.ไปทิ้งไว้ในคลองชลประทานใกล้ๆ กัน จากนั้นกลับไปทำงานปกติเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น จนเจ้าหน้าที่ติดตามไป พอเห็นเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงยอมรับสารภาพ
พ.ต.อ.สมเจษฐ์ กล่าวว่า จากการสอบสวนพยาน และจากหลักฐานต่างๆ ตำรวจยังไม่เชื่อในคำให้การของผู้ต้องหา มีความขัดแย้ง จากการสืบสวนของเจ้าหน้าที่ตำรวจพบว่าผู้เสียชีวิต เป็นคนที่ขยันทำงานเก็บเงิน จะปล่อยโทรศัพท์มือถือให้เพื่อนคนงานสัญชาติเมียนมาด้วยกันผ่อน เพิ่งจะซื้อโทรศัพท์มือถือมาใหม่ 3 เครื่อง เตรียมที่จะให้เพื่อนคนงานด้วยกันผ่อนหายไป พร้อมกับเงินสดอีก 2,000 บาท