วันที่ 3 มีนาคม นายปริญญา วิกุลศิริรัตน์ ผู้อำนวยการสำนักงาน ป.ป.ช. ประจำจังหวัดพระนครศรีอยุธยา มอบหมายกลุ่มงานป้องกันการทุจริต ร่วมกับชมรม STRONG-จิตพอเพียงต้านทุจริต พร้อมกับหน่วยงานตรวจสอบภาครัฐ ที่เกี่ยวข้อง ดำเนินกิจกรรมจับตามองและแจ้งเบาะแส (Watch & Voice) ครั้งที่ 3 ประเด็นความเสี่ยงการทุจริตกรณีรถบรรทุกน้ำหนักเกิน
โดยได้เข้าสังเกตการณ์ ที่สถานีตรวจสอบน้ำหนักอยุธยา ถนนทางหลวงหมายเลข 347ปทุมธานี-บางปะหัน (ขาเข้า) อ.พะรครศรีอยุธยา จ.พระนครศรีอยุธยา และสถานีตรวจสอบน้ำหนักบางปะอิน ถนนสายเอเชีย ทางหลวงหมายเลข 32 (ขาเข้า) โดยพบว่าทั้ง 2 ด่าน ได้ใช้ระบบเครื่องชั่งที่สามารถชั่งน้ำหนักได้ในขณะรถวิ่ง (Weight in Motion System : WIM) มีกล้องตรวจจับรถบรรทุกที่จะมีน้ำหนักเกินเข้าเพื่อตรวจสอบ ชั่งน้ำหนัก
จากสถิติจำนวนรถเข้าชั่งที่สถานีปีงบประมาณ พ.ศ. 2567 สถานีตรวจสอบน้ำหนักอยุธยา ถนนสาย 347 ปทุมธานี-บางปะหัน (ขาเข้า) จำนวน 208,005 คัน ได้ปิดปรับปรุงสถานีชั่วคราวตั้งแต่ ก.ค.-ส.ค.67 พบรถบรรทุกน้ำหนักเกินมีจำนวน 33 คัน
นายชานนท์ สุวรรณาภินันท์ ประธานชมรม STRONG กล่าวว่า สถานีตรวจสอบน้ำหนักบางปะอิน (ขาเข้า) ได้ทราบว่ามีเครื่องชั่งน้ำหนัก 2 ช่องทางจราจร ขาดอีก 2 ช่องทางจราจร ซึ่งเคยมีการพูดคุยถึงจำนวนรถบรรทุกที่เข้าชั่งน้ำหนักมีจำนวนมาก แต่อุปกรณ์ เช่นกล้องที่ใช้ในการตรวจวัดน้ำหนักรถบรรทุกยังครอบคลุมไม่เพียงพอ จึงนำเสนอให้ของบประมาณในการขยายช่องทาง
สำหรับที่ด่านชั่งน้ำหนักถนนสายเอเชีย จากสถิติ มีรถบรรทุกผ่านด่านชั่ง 745,636 คัน พบรถบรรทุกน้ำหนักเกินจำนวน 19 คัน มีระบบเครื่องชั่งน้ำหนัก 2 ช่องจราจร ขาดอีก 2 ช่องจราจร สถานีตรวจสอบน้ำหนัก ขั้นตอนของการทำงานของเจ้าหน้าที่สถานีตรวจสอบน้ำหนักนั้น เมื่อตรวจพบรถบรรทุกน้ำหนักเกิน ต้องส่งเรื่องไปยังสถานีตำรวจ ในพื้นที่ เพื่อส่งฟ้องศาล โดยมีโทษจำคุกไม่เกิน 6 เดือน หรือปรับไม่เกิน 10,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ หรือเป็นดุลพินิจของศาลอาจมีการยึดรถบรรทุกที่กระทำผิดก็ได้
เมื่อวันที่ 12 …
จากกรณี น.ส.ซาซ…