ก๊อง ไม่ขอทำแผนกลัวไม่ปลอดภัย ยอมชดใช้กรรม หลังก่อเหตุเดินเท้าหนีไกล 25 กม.

จากกรณี นาย พิชาติ พยายอด อายุ 42 ปี ถูก นายเฉลิมวงศ์ หรือก๊อง อายุ 28 ปี เพื่อนรุ่นน้อง พังประตูบ้าน ใช้ค้อนปอนด์ทุบที่ศีรษะจนเสียชีวิต ต่อหน้าลูกชายวัย 8 ปี และลูกสาววัย 10 ปี เหตุเกิดเมื่อเสลา 03.00 น.วันที่ 16 ก.พ.ที่ผ่านมา ภายหลังเกิดเหตุเจ้าหน้าที่ตำรวจได้รวบรวมพยานหลักฐาน ขอศาลจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ออกหมายจับ นายเฉลิมวงค์ หรือก๊อง มีมูล อายุ 28 ปี ฆ่าผู้อื่นเป็นเหตุให้ถึงแก่ความตายและลักทรัพย์ของผู้อื่นในเคหสถานในเวลากลางคืน” เจ้าหน้าที่ตำรวจสืบสวนติดตามจับกุมตัวได้ ที่ อ.เสนา จ.พระนครศรีอยุธยา ตามที่เสอนข่าวไปแล้วนั้น
ความคืบหน้าล่าสุดวันที่ 17 กุมภาพันธ์ 2568 เวลา 11.00 น. ที่กองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดพระนครศรีอยุธยา พล.ต.ต.นฤนาท พุทไธสง ผบก.ภ.จว.พระนครศรีอยุธยา พ.ต.อ.อาทิตย์ ซิ้มเจริญ ผกก.สภ.พระนครศรีอยุธยา ร่วมกันแถลงข่าวผลการจับกุมตัว นายเฉลิมวงค์ หรือก๊อง มีมูล อายุ 28 ปี ผู้ต้องหา ระหว่างที่มีการควบคุมตัวผู้ต้องหาเพื่อไปแถลงข่าว นายก๊อง สวมใส่แมสก์สีดำสวมหมวกปิดบังใบหน้า ผู้สื่อข่าวพยายามสอบถามนายก๊อง ถึงสาเหตุที่ลงมือก่อเหตุ ไม่ยอมพุดคุยอะไร
พล.ต.ต.นฤนาท พุทไธสง ผบก.ภ.จว.พระนครศรีอยุธยา กล่าวว่า หลังจากเกิดเหตุ เจ้าหน้าที่ตำรวจฝ่ายสืบสวน เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน เร่งรัดสอบสวนทันทีจนทรราบตัวผู้ต้องสงสัย รวบรวมพยานหลักฐานประกอบขอศาลอนุมัติหมายจับ และติดตามไปจับกุมผู้ต้องหาได้ ใช้เวลาเพียง 10 ชั่วโมง ต้องขอชื่นชมเจ้าหน้าที่ตำรวจทุกนาย
ในเบื้องต้นจากการสอบถามผู้ต้องหาให้การรับสารภาพว่า เป็นผู้ลงมือก่อเหตุเพียงคนเดียว ด้วยความที่มีการดื่มสุรามา และเกิดมีปากเสียงกับผู้เสียชีวิต ก่อนที่จะใช้ค้อนปอนด์ทำร้ายร่างกายจนเสียชีวิต ส่วนในเรื่องของการทำแผนประกอบคำรับสารภาพเป็นสิทธิ์ของผู้ต้องหาที่จะไปทำแผนหรือไม่ทำแผน ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจมีพยานหลักฐานทั้งพยานบุคคลและหลักฐานทางนิติวิทยาศาสตร์ ดำเนินคดีกับผู้ต้องหาได้
สภาพของอาชญากรรมในปัจจุบันจะเห็นว่า มีความรุนแรงมากขึ้น บางครั้งเพียงแค่อารมณ์ชั่ววูบ เรื่องเล็กๆน้อย ลงมือก่อเหตุทำร้ายร่างกายจนเสียชีวิต ด้วยความที่เราขาดหลักธรรมะไป ขาดสติ ยับยัง ตนเองได้อ่านหนังสือเล่มหนึ่งที่ในหลวงพระราชทาน ธรรมนาวา “วัง” ซึ่งประกอบด้วยหลักปฏิบัติเพื่อความพ้นทุกข์ แบบวิธีระลึกถึงคุณพระรัตนตรัย และหลักอริยสัจ 4 ได้อ่านได้ศึกษาแล้วมีประโยชน์อย่างมาก
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจได้สอบถามนายก๊อง ยินยอมที่จะไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพหรือไม่ นายก๊อง ปฎิเสธที่จะไปทำแผนประกอบคำรับสาราภพเกรงว่าจะไม่ปลอดภัย
ขณะที่เจ้าหน้าที่ตำรวควบคุมตัว นายก๊อง ผู้ต้องหาไปสอบสวนต่อ นายก๊อง ได้ขอให้สัมภาษณ์ ยอมรับสารภาพว่า คืนวันเกิดเหตุได้ไปดื่มสุรามาแล้วกลับมาที่บ้านพัก แล้วพบว่าหน้าต่างอะลูมิเนียมหายไปจึง ได้ไปเคาะประตูเรียกผู้เสียชีวิตที่บ้าน เพื่อสอบถาม ว่าหน้าต่างอะลูมิเนียมหายไปไหน แต่ผู้เสียชีวิตปฏิเสธว่าไม่ได้เอาไป ด้วยถ้อยคำรุนแรงจากนั้นผู้ต้องหาจึงได้เข้าไปในบ้านแล้วพบว่ามีค้อนปอนด์วางอยู่ใกล้ๆจึงนำค้อนปอนด์ไปทุบที่ ที่ใบหน้าและศีรษะของผู้เสียชีวิต จนแน่นิ่งไปจังหวะนั้นลูกของผู้เสียชีวิตตื่นขึ้นมาพอดีคว้าโทรศัพท์ตนจึงได้ดึงเอาโทรศัพท์ของลูกผู้เสียชีวิตมาแล้วนำไปทิ้งน้ำ ใกล้กับบ้านของผู้เสียชีวิตจากนั้นจึงได้เดินเท้าลัดเลาะไปตามเส้นทางต่างๆไปซ่อนตัวอยู่ที่อำเภอเสนาจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ห่างจากจุดเกิดเหตุประมาณ 25 กิโลเมตร จนกระทั่งมาถูกเจ้าที่ตำรวจติดตามไปจับกุมตัวได้
นายก๊อง กล่าวขอโทษครอบครัว และลูก ของผู้เสียชีวิต ยอมรับสาราภาพสิ่งที่ทำลงไป ขอชดใช้กรรมที่ตนเองเป็นคนทำ