ข่าวอยุธยา | khaoayutthaya.com | ข่าว | อยุธยา | พระนครศรีอยุธยา | ข่าวด่วน | ข่าวอุบัติเหตุอยุธยา | ข่าวอาชญากรรมอยุธยา | วัดป้อมแก้ว | หลวงพ่อเพิ่ม

ตำรวจวุ่นทั้งจังหวัด สาวกุเรื่องเป็นพยาบาล ถูกชายฉกรรจขับเก๋งปาดหน้า อุ้มขึ้นรถรุมซ้อมจนแท้งลูก

จากกรณี พบน.ส. เอ อายุ 29 ปี ผู้ได้รับบาดเจ็บ อยู่ในลักษณะนอนคว่ำหน้าอยู่ที่พื้นห้องห้องเช่า สวมใส่เสื้อยืดสีน้ำเงิน กางเกงขายาวสีขาว ของพยาบาลแห่งหนึ่ง จ.พระนครศรีอยุธยา มีเลือดไหลออกมาจำนวนมากบริเวณช่องคลอด กางเกงพยาบาล เปรอะเปื้อนไปด้วยเลือด ตั้งแต่บริเวณปากทางเข้าบ้านจนจนถึงประตูบ้านพบรอยเลือดหยดเป็นทางยาวจำนวนมาก ส่วนผู้บาดเจ็บนั้นอยู่ในสภาพอิดโรยเหมือนคนใกล้จะหมดแรง

แต่ยังสามารถให้ข้อมูลกับผู้สื่อข่าวได้ว่า เหตุเกิดช่วงเวลา ประมาณ 06.00น. ตนเองได้ขับรถเก๋งเพื่อจะไปทำงานที่โรงพยาบาลเอกชนแห่งหนึ่ง ในพื้นที่ ต.สามเรือน อ.บางปะอิน จ.พระนครศรีอยุธยา โดยขับรถใช้เส้นทางโรจนะมุ่งหน้าวังน้อย กระทั่งไปถึงจุดเกิดเหตุก่อนถึงปั๊มน้ำมัน ได้มีคนร้ายเป็นชาย 2 หญิง 1 ขับรถเก๋งฮอนด้า สีขาว ไม่ทราบหมายเลขทะเบียน จากนั้น มีชายฉกรรจ์ 1 คนเดินลงจากรถและเดินมาด้านท้ายรถเพื่อขวางไม่ให้ตนเองถอยหลังเพื่อหลบหนี

จากนั้น มีผู้หญิงอีก 1 คนลงมาจากรถ แล้วเปิดประตูรถของตนเอง เข้ามาฝั่งข้างคนขับ ก่อนจะจับมือตนแล้วใช้เชือกมัด ผ้าปิดตา จากนั้นบังคับให้ตนเองลงจากรถและไปขึ้นรถเก๋งของผู้ก่อเหตุ โดยบังคับให้เข้าไปนั่งด้านหลังฝั่งคนขับ จากนั้นผู้หญิงได้ลงมือทำร้ายโดยการใช้เท้าถีบที่บริเวณหน้าท้องหลายครั้ง ก่อนจะขับรถพาตนเองไปส่งบริเวณหน้าปากซอยทางเข้าห้องเช่า โดยมีชายฉกรรจ์อีก 1 คน ขับรถของตนเองมาจอดทิ้งไว้ ตนจึงพยายามกระเสือกกระสนนเอาชีวิตรอด ขับรถที่ผู้ก่อเหตุนำมาทิ้งไว้ทางเข้าที่พัก ขับต่อเข้าไปในห้องเช่า ซึ่งห่างจากบริเวณปากซอยประมาณ 1 กิโลเมตร จากนั้นตนเองก็พยายามพยุงร่างเข้าไปในห้องเช่า แต่ด้วยความเจ็บปวดจึงนอนล้มฟุบสลบอยู่บริเวณหน้าปากทางประตูห้องเช่า จนกระทั่งสามีของตนเองกลับมาเจอ ส่วนมูลเหตุที่ตนเองถูกกระทำแบบนี้ ตนเองก็ยังไม่ทราบเกิดจากอะไร แต่เมื่อ 2 เดือน ที่แล้ว ตนเองเคยแจ้งความและมีคดีฟ้องร้องกับคู่กรณี จนเป็นเหตุให้คู่กรณีไม่ได้ประกันตัวและติตคุก ตนเองก็ไม่แน่ใจว่าเกิดจากสาเหตุนี้หรือไม่

หลังเป็นกระแสข่าวซึ่งเป็นเหตุอุกฉกรรจ์ พล.ต.ต นฤนาท พุธไธสง ผบก.ภ.จว.พระนครศรีอยุธยา ได้สั่งการให้ พ.ต อ อดิเรก โปธิปัน ผกก.สภ.บางปะอิน เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน ออกหาข่าว พร้อมนำตัว น.ส. เอ ผู้บาดเจ็บส่งตรวจร่างกาย รพ.ราชธานี เมื่อตรวจเสร็จแพทย์วินิจฉัยพบว่า ผู้บาดเจ็บไม่ได้มีการตั้งครรภ์และไม่ได้มีการถูกทำร้ายร่างกายจนแท้งลูก

โดย น.ส. เอ ยอมรับว่า เรื่องทั้งหมดตนเองเป็นคนกุเรื่องขึ้นมา รวมทั้งแชท ที่พูดคุยกับสามี ส่วนเลือดที่เปรอะเปื้อนตัวเองนั้น เป็นเลือดหมูโดยไปซื้อมาจากตลาด ส่วนชุดพยาบาลที่ตนเองสวมใส่นั้น เป็นชุดที่ไปซื้อมาใส่เอง เพราะมีความตั้งใจและชื่นชอบอยากเรียนเป็นพยาบาล จึงซื้อมาใส่เพื่อกุเรื่องโกหกสามี ส่วนเหตุผลที่ทำลงไปเกิดจากความน้อยใจในตัวสามี เพราะคิดว่าสามีจะนอกใจและไปมีคนอื่น พร้อมขอโทษทุก ๆ คนที่ทำให้เรื่องทั้งหมดวุ่นวาย

ด้านนาย ต้น อายุ 52 ปี สามี เผยว่า ตนเองไม่รู้เรื่องกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เจ้าหน้าที่ตำรวจบอกกับตนเองว่า ภรรยากุเรื่องขึ้นมาทั้งหมด ตนเองก็ยังไม่อยากจะเชื่อ จึงอยากจะถามภรรยา กุเรื่องขึ้นมาทำไม ซึ่งตนเองตกใจมากหลังรู้ข่าวว่าภรรยาถูกทำร้ายร่างกายจนบาดเจ็บสาหัส เมื่อตนเองมาถึงเห็นภรรยานอนสลบอยู่ที่พื้น ตนเองตกใจพยายามช่วยปั๊มหัวใจ โทรเรียกเจ้าหน้าที่กู้ภัย เนื่องจากเป็นห่วงภรรยา จนกระทั่งมาทราบข่าวว่าภรรยากุเรื่องโกหกทั้งหมด

ตนยอมรับว่า สมัยก่อนตนเองเป็นคนเจ้าชู้ แต่เมื่อมาเจอภรรยา และภรรยาบอกว่าท้อง ตนเองก็พาไปจดทะเบียนสมรส และพร้อมจะหยุดที่ภรรยาคนนี้ แต่ก็ไม่เข้าใจว่าภรรยาทำไมถึงคิดแบบนี้ แล้วก็มากุเรื่องหลอกตนเองจนทำให้เกิดเรื่องวุ่นวายขึ้น

ส่วนเรื่องที่ภรรยาบอกว่าเป็นพยาบาล ตนก็เพิ่งจะทราบความจริงวันนี้ว่า ภรรยาก็โกหกเรื่องขึ้นมาหลอกตนเองทั้งหมด ทั้งเรื่องที่ว่าเป็นเจ้าหน้าที่โรงพยาบาลศิริราชและเป็นเจ้าหน้าที่อยู่โรงพยาบาลราชธานี 2 ซึ่งตนเองก็เคยไปส่งภรรยาที่หน้าโรงพยาบาล จากนั้นภรรยาก็ขึ้นไปบนตึกซึ่งตนเองไม่รู้เลยว่า อยู่กับภรรยามา 1 ปี มาทราบเรื่องก็วันนี้ว่า ภรรยาไม่ได้เป็นพยาบาลจริง เพราะว่าภรรยาก็ให้พาไปซื้อชุดพยาบาลปกติ และก็ออกจากบ้านไปทำงาน จนกระทั่งมาทราบเรื่องวันนี้

แต่อย่างไรก็ตาม ตนเองก็พร้อมที่จะให้อภัยกลับมาเป็น สามีภรรยากัน หากภรรยากลับตัวและจะไม่สร้างเรื่องโกหกแบบนี้อีก




คุณอาจสนใจข่าวนี้

error: เนื้อหา และภาพข่าวมีลิขสิทธิ์ห้ามนำไปเผยแพร่โดยไม่ได้รับอนุญาติ