รวบ 18 มงกุฎ 10 หมายจับหนีคดี 10 ปี ตุ๋นยาย 71 หุ้นซื้อหวยรางวัลที่ 1 ทิพย์สูญ 4.3 แสน
![](https://www.khaoayutthaya.com/wp-content/uploads/2025/01/FFFbPost_1280x720px_3354-1024x576.jpg)
เมื่อวันที่ 7 ม.ค. 68 พ.ต.อ.ชาณภาค สุวรรณชื่น ผกก.สภ.นครหลวง จ.พระนครศรีอยุธยา พ.ต.ท.กิตติพงษ์ กิจก้าวเจริญกุล รอง ผกก.สส. และ พ.ต.ท.วันชัย ศรีระภักดิ์ สว.สส. นำหมายศาลจังหวัดพระนครศรีอยุธยา พร้อมด้วยกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจ ชุดสืบสวน ภ.จว.สิงห์บุรี ไปจับกุมตัว นายพิสัยสิทธิ์ (สงวนนามสกุล) 63 ปี ในข้อหา ร่วมกันฉ้อโกง ปลอมเอกสารราชการ และใช้เอกสารราชการปลอม ได้ที่จุดกวดขันวินัยจราจรสถานีตำรวจภูธรพรหมบุรี (ถนนสายเอเชีย) อ.พรหมบุรี จ.สิงห์บุรี เพร้อมด้วยของกลาง เป็นรถเก๋งคันที่ใช้ก่อเหตุ แผ่นป้ายทะเบียนปลอม ใบรายงานผลการออกสลากกินแบ่งรัฐบาลจำนวน 4 ฉบับ
หลังจากก่อเหตุ หลอกลวง ยายสมพงษ์ อายุ 71 ปี ว่า มีชาวเมียนมาเก็บลอตเตอรี่รางวัลที่ 1 จำนวน 1 ใบ เป็นเงินรางวัล 6 ล้านบาท แต่ชาวเมียนมา ไม่สามารถไปขึ้นเงินรางวัลได้ จึงมาชักชวนกันหุ้นเพื่อซื้อลอตเตอรี่จากชาวเมียนมา แล้วนำเงินมาแบ่งกัน ผู้เสียหายหลงเชื่อ ไปเบิกงานธนาคารมาให้ผู้ต้องหา สูญเงินไป 4 แสนกว่าบาท
ภายหลัง ยายสมพงษ์ ผู้เสียหาย ได้เดินทางมาดูหน้าผุ้ต้องหา พร้อมกับเล่าว่า เมื่อวันที่ 25 พ.ย. 67 ที่ผ่านมา ตนเองกำลังไปนาที่ทำเอาไว้ ใน หมู่ 1 ตงแม่ลา อ.นครหลวง จ.พระนครศรีอยุธยา ได้มีชายขับขี่รถเก๋ง สีดำ อ้างว่าเจ้าหน้าที่ของสำนักงานเกษตรมาที่ดิน มาพร้อมกับหญิงสาว แต่งตัวดี อ้างว่าจะจะมาซื้อที่ดิน ระหว่างนั้น มีคนร้ายอีกคน อ้างตัวเป็นชาวเมียนมา เป็นคนงานขายอุปกรณ์ทางการเกษตร เข้ามาพูดคุยด้วยเสนอขายอุปกรณ์ทางการเกษตร แล้วทำลอตเตอรี่ตก ผู้ต้องหา ได้ทำทีเป็นก้มเก็บลอตเตอรี่ตกเอาไว้ พร้อมกับมีการตรวจรางวัลลอตเตอรี่ พบว่าถูกรางวัลที่ 1 งวดวันที่ 16 พ.ย. 67 แต่ผู้ต้องหาบอกว่า เป็นของชาวเมียนมา ไม่สามารถนำลอตเตอรี่เงินไปขึ้นเงินรางวัลได้ จึงมีการพูดคุย จะขอซื้อลอตเตอรี่จากชาวเมียมา ในราคา 1 ล้านบาท ผู้ต้องหาได้สอบถามตนเองว่ามีเงินหรือไม่ ก่อนชักชวนตนเองให้นำเงินมาหุ้นกันซื้อลอตเตอรี่ แล้วนำสลากไปขึ้นเงินรางวัลจำนวน 6 ล้านบาท แล้วนำมาแบ่งกัน 3 คน
ยามสมพงษ์ กล่าวต่อว่า ตนหลงเชื่อ จึงให้ผู้ต้องหาขับรถพาไปเบิกเงินสดจำนวน 430,000 บาท ที่ธนาคาร ในตัวจังหวัดพระนครศรีอยุธยา โดยคนร้ายนั่งรอในรถหน้าธนาคาร หลังจากเบิกเงินมาให้กับผู้ต้องหา ผู้ต้องหาได้ให้ลอตเตอรี่ มัดใส่ถุงอย่างแน่นหนาส่งให้ตนเก็บไว้ แล้วขับรถมาส่งตนเอง พร้อมกับบอกให้ตนเองนำลอตเตอรี่ไปขึ้นเงินรางวัล แล้วจะกลับมารับส่วนแบ่ง เมื่อกลับมาถึงบ้าน จึงเปิดถุงดูพบว่าเป็นลอตเตอรี่ปลอม จึงรู้ว่าถูกลอกสูญเสียเงินไป เสียดายเงินมากตนเองเก็บสะสมเงินมาจากการทำนา จึงไปแจ้งความลงบันทึกไว้ที่ สภ.นครหลวง
“กลุ่มผุ้ต้องหาทั้ง 3 คน พูดจาว่านล้อม แสดงละครสร้างเรื่องราว จนเหมือนจริงมาหลอก แถมเรื่องมันประจวบกับก่อนหน้าที่จะเกิดเรื่อง มีพระทักมาว่าจะได้จับเงินล้าน ยิ่งปักใจเชื่อว่าจะเป็นลาภลอย จึงหลงเชื่อถูกผู้ต้องหาหลอกสูญเสียเงิน” ยายสมพงษ์ กล่าว
ในเบื้องต้นเบื้องต้นนายพิสัยสิทธิ์ ผู้ต้องหา ให้การปฎิเสธตลอดข้อกล่าวหา แต่จากพยานหลักฐานทั้งภาพจากกล้องวงจรปิด และผู้เสียหายยืนยันจำรูปร่างใบหน้าของผู้ต้องหาได้อย่างชัดเจน จึงรวบรวบรวมพยานหลักฐาน ขอศาลจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ออกหมายจับ นอกจากนี้ยังพบว่าผู้องหา มีหมายจับ ในข้อหา ทั้ง“ร่วมกันฉ้อโกงโดยแสดงตนเป็นคนอื่น” และ“ลักทรัพย์” ตั้งแต่ปี 2554 จนถึงปัจจุบัน รวม 9 หมาย ทั้งใน จ.พระนครศรีอยุธยา ลำปาง กำแพงเพชร นครสวรรค์ พิษณุโลก อุทัยธานี กำแพงเพชร