ตำรวจ สนธิกำลังฝ่ายปกครอง บุกค้นแคมป์ก่อสร้าง เช้าตรู่ แรงงานต่างด้าวผิดกฎหมาย วิ่งหนีกระเจิง
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เช้าตรู่ วันที่ 8 ธันวาคม 2567 พล.ต.ต โชติวัฒน์ เหลืองวิลัย ผบก.ภ.จว.พระนครศรีอยุธยา สั่งการให้ พ.ต.อ สุพจน์ รอดบำรุง รอง ผบก.พระนครศรีอยุธยา พ.ต.อ มนัส อัดโดดดร ผกก.สภ.อุทัย พร้อมด้วย นายปกรณ์เกียรติ กาฬษร นายอำเภออุทัย ปลัดอำเภอ พร้อม เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนภูธรจังหวัดพระนครศรีอยุธยา สมาชิกกองอาสารักษาดินแดนอำเภออุทัยที่ 4 นำกำลัง เข้าตรวจค้น แคมป์คนงานก่อสร้าง แห่งหนึ่ง ในพื้นที่ หมู่ 4 ต.หนองน้ำส้ม อ.อุทัย จ. พระนครศรีอยุธยา หลังจากมีการสืบทราบว่า ภายในแคมป์ดังกล่าว มีการนำแรงงานต่างด้าวผิดกฎหมาย ลักลอบทำงาน
กำลังเจ้าหน้าที่ บุกเข้าค้นในแคมป์คนงานช่วงเช้ามืด เป็นเวลาที่คนงานต่างด้าวยังหลับพักผ่อนอยู่ เมื่อเห็นเจ้าหน้าที่ชุดปฏิบัติการ แรงงานต่างด้าวตกใจพากันวิ่งหนีอลม่าน บางรายวิ่งหนีขึ้นไปบนหลังคา สังกะสี ของแคมป์คนงาน เจ้าหน้าที่ สามารถติดตามจับกุมได้ 100 คน พบว่า เป็นคนต่างด้าวสัญชาติเมียนมา
ตรวจสอบแล้วไม่มีใบอณุญาติหรือไม่มีหนังสือเดินทางหรือเอกสารใช้แทนหนังสือเดินทางแต่อย่างใด จำนวน 37 คน ชาย 26 คน หญิง 11 คน ดำเนินคดี ใน ข้อหา “เป็นบุคคลต่างด้าวเดินทางเข้ามาและอยู่ในราชอาณาจักรโดยไม่ได้รับอนุญาต” จึงควบคุมตัวมาที่ สภ.อุทัย ดำเนินการตามกฎหมายต่อไป
สอบถาม นายลัคกี้ อายุ 32 ปี แรงงานชาวเมียนมา บอกกับผู้สื่อข่าวว่า แรงงานทั้งหมดได้ลักลอบเข้าเมือง มาทางช่องทางธรรมชาติ จังหวัดแม่ฮองสอน โดยเสียค่าใช้จ่าย ในการเดินทางมาทำงาน จำนวน15000- 20,000 บาท ต่อคน โดยมา ทำงานก่อสร้าง เป็นกรรมกร ได้ค่าแรงวันละ 500 บาทส่วน แรงงานพม่าที่มีฝีมือ จะได้ค่าแรงอยู่วันละ 600 บาท ซึ่ง ประเทศเมียนมา เกิดการสู้รบ ทำให้ ต้องดิ้นรน ออกนอกประเทศ มาทำงานยังประเทศเพื่อนบ้าน
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจ ต้อง เหมาร้านส้มตำไก่ย่าง มาทำอาหารเลี้ยงกลุ่มแรงงานชาวเมียนมาเป็นอาหารเช้า ด้วยความสงสมารและความเป็นเพื่อนมนุษย์