ผู้การอยุธยาสั่งล่าตัว ‘เล็ก’ หลอกยืมเงินเจ้าอาวาสวัดโบสถ์ ลั่นถ้าพบใครเอี่ยว เอาผิดหมด
กรณี พระครูวรวัฒน์เขมากร อายุ 68 ปี เจ้าอาวาสวัดโบสถ์ (บน) ต.บ้านกระทุ่ม อ.เสนา จ.พระนครศรีอยุธยา จบชีวิตภายในวัด พร้อมเขียนจดหมายบรรยายถูก นายเล็ก ชายวัยกลางคน แต่งตัวดี ขับรถเข้ามาตีสนิทก่อนออกตัวจองกฐิน ทำบุญกับวัด ก่อนออกอุบายให้เจ้าอาวาสยืมเงินญาติโยม 6.5 แสนบาท แล้วหายตัวไป เจ้าอาวาสเกิดความเครียดก่อเหตุสลดเมื่อวันที่ 20 ต.ค.ที่ผ่านมา
ล่าสุด ช่วงเช้าวันที่ 22 ตุลาคม ผู้สื่อข่าวรายงานบรรยากาศที่วัดโบสถ์ (บน) ต.บ้านกระทุ่ม อ.เสนา จ.พระนครศรีอยุธยา บริเวณหน้ากุฏิเจ้าอาวาส มีพระสงฆ์มาทำความสะอาด โดยกุฏิเจ้าอาวาสถูกล็อกด้วยกุญแจ ซึ่งหลังจากเสร็จพิธีบำเพ็ญกุศล คณะกรรมการวัดจะเปิดกุฏิเพื่อสำรวจทรัพย์สิน
ญาติโยมรายหนึ่งที่เจ้าอาวาสยืมเงินไป 40,000 บาท ให้ข้อมูลว่า เจ้าอาวาสเป็นลุง ขอยืมเงินจากตนไป 40,000 บาท มาช่วยงานที่วัดเป็นประจำเห็นความตั้งใจของเจ้าอาวาสที่พัฒนาวัด ดูแลพระพุทธศาสนา จัดอบรมธรรมะ สอนวิปัสสนา มีความเมตตาสูงมาก เจ้าอาวาสยืมเงินไปแล้วบอกว่าจะใช้คืนช่วงหลังงานกฐินของวัด ซึ่งตนตั้งใจไว้อยู่แล้วว่าจะถวายเงินร่วมทำบุญกับเจ้าอาวาส 20,000 บาท แต่ก็มาเกิดเหตุไม่คาดคิดก่อน ไม่ได้ติดใจ หรือจะเอาคืน จะได้ไม่เป็นบาปกับเจ้าอาวาส ขึ้นอยู่กับคณะกรรมการวัดและญาติพี่น้องของหลวงพ่อว่าจะทำยังไงกับเงินที่ยืมจาก 9 คน รวมตนด้วย ยืนยันว่า ถ้าไม่ใช้ก็ไม่ได้ติดใจ พร้อมจะทำบุญ
พล.ต.ต.โชติวัฒน์ เหลืองวิลัย ผบก.ภ.จว.พระนครศรีอยุธยา เปิดเผยว่า จากการชันสูตรพลิกศพ สอบสวนพยานหลักฐานต่างๆ แล้ว คณะกรรมการวัดและญาติไม่ติดใจสาเหตุของการเสียชีวิต ส่วนเรื่องการติดตามนายเล็กที่ยืมเงินเจ้าอาวาสไป 650,000 บาท แล้วไม่ยอมใช้คืน จนทำให้เจ้าอาวาสเกิดความเครียด เจ้าหน้าที่ตำรวจได้รวบรวมพยานหลักฐานต่างๆ เพื่อดำเนินคดีตามขั้นตอนของกฎหมาย ในคดีฉ้อโกง พนักงานสอบสวนได้ออกหมายเรียกไปแล้ว 1 ครั้ง มีภรรยาของนายเล็กเป็นคนรับ ส่วนที่นายเล็กมารับจะขอร่วมเป็นเจ้าภาพทอดกฐิน มีการนำรายชื่อกรรมการและนำซองกฐินไป อยู่ระหว่างการรวบรวมพยานหลักฐานต่างๆ ว่าจะมีความผิดทางกฎหมายในคดีอาญาหรือไม่ หรือทางแพ่ง
จากการสืบสวนทราบว่า นายเล็กใช้หลายชื่อ ทั้ง เล็ก หรือ แดง ไปหลอกลวงคนอื่น ใช้วิธีการโน้มน้าวพูดคุย สร้างเรื่องให้เหยื่อเกิดความหลวงเชื่อ เช่น ชักชวนขายหวย ขายหมู หลอกเป็นเจ้าภาพทอดกฐิน เคยก่อเหตุในพื้นที่ จ.แพร่ สุพรรณบุรี อ่างทอง ชัยนาท พระนครศรีอยุธยา
เจ้าหน้าที่ตำรวจอยากให้ผู้เสียหายเข้าแจ้งความดำเนินคดี เพื่อให้เป็นคดีฉ้อโกงประชาชน ข้อหาจะหนักมากขึ้น และขอให้ประชาชนที่มีข้อมูล หรือพบเห็นนายเล็ก ให้แจ้งกับเจ้าหน้าที่ตำรวจเพื่อติดตามตัวมาสอบสวน ขณะนี้ได้ติดตามไปตามบ้านญาติและคนใกล้ชิดแล้ว มีการเชิญตัวคนใกล้ชิดมาสอบสวนว่ามีส่วนเกี่ยวข้อง หรือมีความเชื่อมโยงถึงกันหรือไม่ หากพบจะดำเนินคดีด้วย
ส่วนเรื่องการจัดทอดกฐินที่วัดโบสถ์ ในวันที่ 27 ตุลาคมนี้ เจ้าหน้าที่ตำรวจจะร่วมเป็นเจ้าภาพด้วย เพื่อช่วยเหลือวัดและทำบุญถวายอุทิศส่วนกุศลให้เจ้าอาวาส