น้ำท่วมอยุธยาหลายอาชีพระทมใจ ต้องหยุดขาย-ขาดรายได้
เมื่อวันที่ 6 ต.ค. 67 ผู้สื่อข่าวรายงานสถานการณ์น้ำท่วมในพื้นที่ จ.พระนครศรีอยุธยา ยังคงได้รับผลกระทบจากเขื่อนเจ้าพระยาเร่งระบายน้ำลงสู่พื้นที่ท้ายเขื่อน ในอัตรา 2,150 ลบ.ม./วินาที ส่งผลให้บ้านเรือนประชาชนที่อยู่ติดริมแม่น้ำเจ้าพระยา แม่น้ำน้อย ที่ถูกน้ำท่วมระดับน้ำมีปริมาณเพิ่มสูงขึ้น โดยถูกน้ำท่วมแล้ว 7 อำเภอ 96 ตำบล 545 หมู่บ้านได้รับความเดือดร้อน จำนวน 23,497 ครัวเรือน วัดถูกน้ำท่วม 14 แห่ง มัสยิด 2 แห่ง โรงเรียน 21 แห่ง (เป็นศูนย์เด็กเล็ก 2 แห่ง) สถานที่ราชการ 5 แห่ง ถนนภายในหมู่บ้าน 26 สาย
โดยระดับน้ำที่เพิ่มสูงขึ้นเฉลี่ยประมาณ 20-30 เซนติเมตร ส่งผลกระทบต่อการดำรงชีวิตทั้งในเรื่องของการเดินทางเข้าออกจากชุมชน ถนนถูกน้ำท่วมสูง รวมไปถึงการประกอบอาชีพ
ส่วนที่ ศาลาอเนกประสงค์ หมู่ที่ 3 ต.บางหลวง อ.บางบาล ชาวบ้านนำรถจักรยานยนต์มาจอดเพื่อหนีน้ำท่วมในชุมชน นอกจากนี้กลุ่มชาวบ้านที่เป็นผู้สูงอายุช่วยกันคัดเลือก ล้างพืชผักสวนครัว เพื่อนำไปขาย
นางอรวรรณ รุจิวรรณ อายุ 45 ปี เจ้าของผัก เล่าว่า ตนมีอาชีพขายผักสดที่ตลาดเจ้าพรหม จ.พระนครศรีอยุธยา ปกติตนจะรับซื้อพืชผักสวนครัวจากชาวบ้านที่บ้านด้วยตัวเอง เพื่อนำไปขายที่ตลาดเจ้าพรหม แต่ช่วงนี้พืชผักสวนครัวชาวบ้านถูกน้ำท่วม ต้องไปซื้อผักสวนครัวมาจาก จ.อ่างทอง เพื่อนำไปขายแทน เพราะถ้าเราหยุดขายจะขาดรายได้ ส่วนชาวบ้านส่วนใหญ่จะเป็นผู้สูงอายุ เราจะจ้างช่วยกันคัดเลือกช่วยกันล้าง เพื่อเป็นรายได้เสริมให้ด้วย
ด้าน น.ส.รัชนี ผกามาศ อายุ 60 ปี ชาวบ้านที่มารับจ้างล้างผัก เล่าว่า บ้านของตนถูกน้ำท่วม 2 รอบ มาเกือบเดือน ทำมาหากินอะไรไม่ได้เลย ตนมีสวนผักก็ถูกน้ำท่วมหมด เลยมารับจ้างล้างผัก เลือกผัก พอมีรายได้บ้าง จะเข้าออกไปทำที่บ้านก็ลำบาก ตอนนี้จะเข้าไปบ้านก็แค่ตอนนอน เพราะน้ำท่วมเข้าออกลำบาก สวนผักสวนครัว กล้วย อ้อย ถูกน้ำท่วมทั้งหมด