กระบะพุ่งเสยท้ายรถตู้ มูลนิธิฯ ก่อนพุ่งชนเสาไฟขาด 2 ท่อน ทำไฟดับโกลาหลทั้งเมือง
เมื่อวันที่ 5 ต.ค. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า กลางดึกที่ผ่านมา พ.ต.ต.เดชาธร คำมิ่ง สว.สวน สภ.อุทัย จ.พระนครศรีอยุธยา เข้าตรวจสอบอุบัติเหตุรถกระบะเฉี่ยวชนท้ายรถตู้ของอาสาสมัครมูลนิธิพุทไธสวรรย์ ก่อนเสียหลักพุ่งชนเสาไฟฟ้ากระเด็นตกข้างทาง ส่งผลให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บสาหัส 1 ราย เหตุเกิดบนถนนโรจนะขา เข้าช่วงหลักกม.ที่ 13 หมู่ที่ 4 ต.คานหาม อ.อุทัย จ.พระนครศรีอยุธยา
ที่เกิดเหตุพบเสาไฟฟ้าขาด 2 ท่อน ใกล้กันพบรถกระบะฟอร์ด 4 ประตู สีส้ม สภาพด้านหน้าพังเสียหายยับเยินเครื่องยนต์กระเด็นหลุดออกมากองอยู่บนฟุตบาตรถนน ภายในรถพบผู้บาดเจ็บ 1 ราย เป็นชายอายุ 45 ปี อาการสาหัสถูกติดอยู่ภายในซากรถ เจ้าหน้าที่ช่วยเหลือนำผู้บาดเจ็บส่งโรงพยาบาลพระนครศรีอยุธยา
fff
บนถนนพบรถตู้ของอาสาสมัครมูลนิธิพุทไธสวรรย์ สภาพถูกชนท้ายด้านขวาได้รับความเสียหาย ยางหลังด้านขวาแตก มีนายวิจัย จันทุมมา เจ้าหน้าที่อาสาสมัครมูลนิธิพุทไธสวรรย์ เป็นคนขับยังอยู่ในอาการตกใจ เล่าว่า ก่อนเกิดเหตุตนเองกำลังขับรถอยู่เลนขวาเหลือบมองไปที่กระจกหลังเห็นหลังรถกระบะพุ่งเข้ามาชนด้านท้ายอย่างแรงแล้วพุ่งขึ้นไปที่ฟุตปาธชนชนเข้ากับเสาไฟฟ้า ตนรีบเข้าไปช่วยคนเจ็บแต่เห็นมีควันขึ้นมาก่อนจึงรีบประสานขอกำลังเจ้าหน้าที่อาสาสมัครมูลนิธิพุทไธสวรรย์มาช่วยเหลือทันที
บริเวณโดยรอบกระแสไฟฟ้าดับเป็นวงกว้าง เจ้าหน้าที่การไฟฟ้าส่วนภูมิภาคอุทัย เร่งทำการแก้ไข จากการสำรวจความเสียหายพบว่า เสาไฟฟ้าแรงสูงได้รับความเสียหาย 1 ต้น มีหม้อแปลงของแขวงทางหลวงได้รับความเสียหาย 1 ลูก ทำให้ไฟส่องสว่างถนนดับ มูลค่าความเสียหายกว่า 1 แสนบาท แต่ต้องประเมินอย่างละเอียดอีกครั้ง
เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ตรวจสอบร่องการเกิดอุบัติเหตุที่รถยนต์ทั้ง 2 คัน และเชิญคนขับไปทำการสอบถาม รวมถึงจะไปสอบปากคำผู้บาดเจ็บอย่างละเอียดอีกครั้ง เพื่อหาสาเหตุอุบัติเหตุที่เกิดขึ้นพร้อมกับดำเนินการตามขั้นตอนกระบวนการของกฎหมายต่อไป