รมว.กระทรวงยุติธรรม เปิดงานมหกรรมแก้หนี้ สร้างวิถีแห่งความเป็นธรรม มุ่งปลดภาระผู้ค้ำ ยืนยันเปลี่ยนรัฐบาลยังเร่งแก้ปัญหาหนี้ให้ประชาชาชน
วันที่ 19 สิงหาคม 2567 ที่ หอประชุมมหาวิทยาลัยราชภัฎพระนครศรีอยุธยา พ.ต.อ. ทวี สอดส่อง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม เป็นประธานในพิธีเปิดงาน “มหกรรมแก้หนี้ สร้างวิถีแห่งความเป็นธรรม” จังหวัดพระนครศรีอยุธยา โดยมี ผู้บริหารของส่วนราชการในสังกัดกระทรวงยุติธรรม คณะที่ปรึกษากระทรวงยุติธรรม นายไพรัตน์ เพชรยวน รองผวจ.พระนครศรีอยุธยา นางสมทรง พันธ์เจริญวรกุล นายก อบจ.พระนครศรีอยุธยา สส.พระนครศรีอยุธยา อธิการบดีมหาวิทยาลัยราชภัฎพระนครศรีอยุธยาและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในพื้นที่ร่วมให้การต้อนรับ
โดย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ได้พบปะประชาชนและลูกหนี้ กยศ. ที่มาร่วมงานเพื่อให้กำลังใจและแนะนำโปรโมชั่นดี ๆ สำหรับลูกหนี้ที่มาร่วมงาน และได้มีการลงนามปรับโครงสร้างหนี้ให้กับผู้ต้องราชทัณฑ์ของเรือนจำกลางจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ทัณฑสถานวัยหนุ่มพระนครศรีอยุธยา เรือนจำจังหวัดสิงห์บุรี เรือนจำจังหวัดอ่างทอง เรือนจำจังหวัดลพบุรี
พ.ต.อ. ทวี สอดส่อง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม กล่าวว่า รัฐบาลมีนโยบายเร่งแก้ไขปัญหาหนี้สิน โดยเฉพาะหนี้ครัวเรือน ที่รวมถึงหนี้เกษตรกร และหนี้ต่างๆ ที่ไม่ใช่หนี้สาธารณะ นอกจากนี้ ยังรวมถึงหนี้กองทุนให้กู้ยืมเพื่อการศึกษา หรือ หนี้ กยศ. ทั้งนี้มุ่งเน้นการแก้ไขปัญหาหนี้กองทุนให้กู้ยืมเพื่อการศึกษาเพื่อวางยุทธศาสตร์การแก้ไขปัญหาหนี้ก้อนนี้ โดยในพื้นที่จังหวัดพระนครศรีอยุธยา และใกล้เคียงมีหนี้กองทุนให้กู้ยืมเพื่อการศึกษา ประมาณสามพันกว่าล้านบาท กระทรวงยุติธรรมร่วมวางแผนกับ กยศ. ในการปรับโครงสร้างหนี้ ซึ่งตามกฎหมายผู้ค้ำประกันเงินกองทุนให้กู้ยืมเพื่อการศึกษา จะถูกปรับออกจากระบบการค้ำประกันทันที และจะยืดระยะเวลาชำระหนี้ออกไปอีก 15 ปี แต่ผู้เป็นหนี้ต้องเข้าระบบการปรับโครงสร้างหนี้ อย่างลูกหนี้ กยศ. ที่มางานนี้ ส่วนใหญ่ไม่ได้ห่วงตนเอง แต่ห่วงผู้ค้ำซึ่งเป็นพ่อแม่ผู้ปกครองเสียมากกว่า เพราะกังวลทรัพย์ของครอบครัว เป็นที่มาของเป้าหมายในการวางยุทธศาสตร์นี้ ซึ่งจะส่งผลต่อเป้าหมายของรัฐบาลด้วย ในเรื่องหนี้สินในส่วนอื่นๆ ไม่ว่าจะมาจากการกู้ยืมจากสถาบันการเงินหรือหนี้เช่าซื้อรถยนต์ หนี้บัตรเครดิต ซึ่งมหกรรมในครั้งนี้ จะเป็นการใช้แนวทางของความยุติธรรมทางเลือก ความยุติธรรมสมานฉันท์ ส่วนการปรับคณะรัฐมนตรีใหม่ จะไม่ส่งผลกับโครงการแก้หนี้ ซึ่งนโยบายการสำคัญของรัฐบาลคือการแก้ไขหนี้ประชาชน