หนุ่มวัย 31 ปี ยืมกระบะพ่อตา รับขนต่างด้าวเข้าเมือง เผยรายได้ดี เที่ยวละ 15,000 บาท
เมื่อวันที่ 12 มีนาคม พ.ต.ท.ปภินวิทย์ อุดมพร สว.ส.ทล.1 กก.1 บก.ทล. กล่าวว่า ได้รับการรายงานเหตุจากรถยนต์สายตรวจ ตำรวจทางหลวงอยุธยา เมื่อเวลาประมาณ 01.30 น.ขณะกำลังออกป้องกันเหตุอาชญากรรม บริเวณถนนทางหลวงเส้น 347 อ.มหาราช จ.พระนครศรีอยุธยา ช่วงเวลาประมาณ เวลาประมาณ 00.30 น. พบรถกระบะ ยี่ห้ออีซูซุ สีขาว ขับมาด้วยความเร็วสูงและมีผ้าใบสีดำปิดที่ด้านท้ายรถ ลักษณะคล้ายกับบรรทุกสิ่งของมาหนัก เจ้าหน้าที่จึงขับติดตามไปเพื่อขอตรวจสอบ
เมื่อเจ้าหน้าที่ได้เปิดสัญญาณไซเรน เพื่อเรียกให้หยุดรถ แต่รถคันดังกล่าวกลับเร่งเครื่องหลบหนี จึงวิทยุประสานเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.มหาราช ให้ช่วยสกัดจับกุม นำรถบรรทุก 6 ล้อมาปิดถนน จนสามารถสกัดจับกุมได้ที่ได้ หมู่ 2 ต.น้ำเต้า อ.มหาราชจ.พระนครศรีอยุธยา
จากการตรวจค้นพบนายธีรภัทร (สงวนนามสกุล) อายุ 31 ปี ชาวจังหวัดพิษณุโลก เป็นคนขับ ที่กระบะมีผ้าสแลนสีดำคลุมเอาไว้ เมื่อเปิดออกตรวจสอบพบว่า ภายในมีแรงานต่างด้าวสัญชาติเมียนมา จำนวน 11 คน เป็น ชาย 8 หญิง 3 อายุระหว่าง 20-25 ปี หลายคนนอนหลับเพิ่งจะรู้สึกตัว จึงได้ประสานเจ้าหน้าที่ตำรวจตรวจค้นเข้าเมือง พระนครศรีอยุธยามาร่วมตรวจสอบ พบว่า แรงานต่างด้าวทั้งหมด ไม่มีหนังสือเดินทางหรือเอกสารใช้แทนหนังสือเดินทางแต่อย่างใด
นายธีรภัทร กล่าวว่า เป็นครั้งแรกที่รับจ้างขนแรงงานต่างด้าว มีเพื่อนชักชวนให้ตนนำรถมารับจ้างขนแรงงานต่างด้าว โดยให้ค่าจ้างเหมาเที่ยวละ 15,000 บาท ตนเห็นว่าได้ค่าจ้างแพงจึงไปขอยืมรถพ่อตาขับไปรับแรงานต่างด้าวที่บริเวณริมถนน ทางหลวงหลวงหมายเลข11 ใกล้แยกวังงิ้ว อ.ดงเจริญ จ.พิจิตร จากนั้นเดินทางออกมาเพื่อไปส่งที่ อ.สามโคก จ.ปทุมธานี โดยเมื่อถึงจุดหมายจะมีรถมารับอีกทอดหนึ่ง ตลอดเส้นทางตนเองได้เลือกใช้เส้นทางสายรองเพื่อหลีกเลี่ยงด่านตรวจ จนมาถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจสกัดจับกุม
นางสาวอู๋ (นามสมมติ) อายุ 20 ปี แรงงานต่างด้าวที่ถูกจับกุม กล่าวว่า ได้เดินเท้าผ่านช่องทางธรรมชาติเข้ามาในพื้นที่ของประเทศไทย และมีคนมารับมาส่งพาออกมาขึ้นรถ ส่งต่อให้รถกระบะที่ถูกจับกุม เพื่อจะเข้ามาหางานทำในประเทศไทย โดยเสียค่าใช้จ่าย คนละ 15,000 บาท
จากนั้นเจ้าหน้าที่ได้ควบคุมตัวนายธีรภัทร และแรงานต่างด้าวทั้งหมด ส่งพนักงานสอบสวน สภ.มหาราช จ.พระนครศรีอยุธยา เพื่อดำเนินการตามกฎหมายต่อไป