ชายพิการโยกวีลแชร์เข้า กทม. ด่าหมดไม่สนหน้าไหน
จากกรณี ชายพิการใช้รถโยกสามล้อจากสุโขทัย เดินทางมาตามถนนสายเอเซียมุ่งหน้าเข้ากรุงเทพฯ มุ่งหน้าไปที่กรมบัญชีกลาง กรุงเทพฯ เพื่อไปยืนยันตัวตน เนื่องจากถูกตัดสิทธิผู้พิการ และไม่มีบัตรประชาชน
ล่าสุด ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายมณฑล อายุ 48 ปี ชายพิการ โยกรถสามล้อวีลแชร์ ออกจากวัดตานิม อ.บางปะหัน จ.พระนครศรีอยุธยา ตั้งแต่ช่วงเช้ามืด ซึ่งจุดมุ่งหมายปลายทางคือกรุงเทพมหานคร โดยตลอดเส้นทางบนถนนสายเอเชีย ขาเข้ากรุงเทพมหานคร นายมณฑลหากพบเจ้าหน้าที่ทุกหน่วยงาน หรือผู้สื่อข่าว จะจอดรถต่อว่า ด่าแบบเกรี้ยวกราด ไม่ให้เข้ามาเกี่ยวข้องหรือเข้ามาใกล้ จนเจ้าหน้าที่ตำรวจต้องขับรถจยย.ติดตามห่างๆ
โดยนาย มณฑล ได้โยกรถสามล้อ มาได้ประมาณ 10 กิโลเมตร พบเห็นมีรถตู้ของเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองคอยขับรถติดตาม ได้โยกรถสามล้อวีลแชร์แวะเข้าไปภายในบริเวณ ศูนย์พัฒนาการจัดสวัสดิการสังคมผู้สูงอายุวาสนะเวศม์ ริมถนนสายเอเชียช่องทางคู่ขนาน ต.บ่อโพง อ.นครหลวง จ.พระนครศรีอยุธยา เข้าไปจอด
ผู้สื่อข่าวจึงได้ไปสอบถามถึงการที่จะเข้าไปในกรุงเทพมหานคร เรื่องของสุขภาพร่างกาย แต่กลับถูกนายมณฑลเกรี้ยวกราดต่อว่าสื่อมวลชนที่เข้าไปสอบถาม พร้อมกับใช้คำหยาบคาย แล้วได้ โยกรถสามล้อวีลแชร์ ออกจากศูนย์พัฒนาการจัดสวัสดิการสังคมผู้สูงอายุวาสนะเวศม์ ริมถนนสายเอเชีย ขาเข้า ช่วงหลักกิโลเมตรที่ 26 ต.บ่อโพง อ.นครหลวง จ.พระนครศรีอยุธยา โดยจังหวะนั้น กลุ่มผู้สื่อข่าว ที่ไปเฝ้าติดตามทำข่าว ได้ถูกนาย มณฑล ด่าด้วยคำหยาบคาย เอะอะโวยวายเสียงดัง พร้อมกับ วกรถกลับ โยกรถเข้าพุ่งชนกลุ่มผู้สื่อข่าวที่ถ่ายภาพบันทึกภาพจนต้องกระโดดหลบ กันจ้าละหวั่น
จากนั้นก็โยกสามล้อออกไปทางถนน สายเอเชีย ช่องทางคู่ขนานเพื่อจะขึ้นสะพานข้ามทางรถไฟ นาย มณฑล ได้โยกรถกลับย้อนศร กลับมาที่หน้าหมู่บ้านแห่งหนึ่ง ผู้สื่อข่าวจึงได้เข้าไปสัมภาษณ์สอบถามอีกครั้ง สาเหตุที่โยกรถย้อนกลับมา ได้รับคำตอบจากนายมณฑลว่า ทำไมสื่อมวลชนต้องติดตามและไม่ให้ความเป็นส่วนตัว กับตนเองด้วย พร้อมกับพูดคำหยาบต่อว่า สื่อมวลชน แล้วโยกรถย้อนกลับเส้นทางเดิมมาอีก จนที่โยกของนายมณฑลนั้นด้ามโยกหักได้รับความเสียหาย มีเจ้าหน้าที่ รักษาความปลอดภัยของหมู่ที่อยู่ใกล้เคียง เข้าไปสอบถามจะให้ความช่วยเหลือ พร้อมกับนำน้ำดื่มไปให้ ถูกนายมณฑล ต่อว่า ไม่ต้องมายุ่ง เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยแปลกใจตกใจกับพฤติกรรมอย่างมาก ทั้งที่ดูข่าวและเห็น สภาพวันนี้เกิดความสงสาร แต่ทำไมต้องด่ากันด้วย
ทางด้านนายชัชชัย กิตติไชย หรือ ชัช ตลาดไท ผู้บริหารสมาคมอยุธยารวมใจ เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวว่าหลังจากที่ตนเองได้รับรายงานตั้งแต่เมื่อวานจึงเข้าช่วยเหลือและนำรถสามล้อโยกของนายมณฑลนำไปซ่อมแซมให้ และได้ทิ้งเบอร์โทรศัพท์ไว้ให้นายมณฑล จนเมื่อช่วงเช้ามืดในมณฑลโทรมาต่อว่าตนเองพูดจาเสียหายว่าเหมือนตนเองหลอก แต่ทั้งที่ตนเองไม่ได้หลอกนำรถนายมณฑลไปซ่อมให้จริง โดยหลายหน่วยงาน แต่ละหน่วยก็ให้ความช่วยเหลืออย่างเต็มที่กลับถูกต่อว่ากันหมด ซึ่งจุดประสงค์ของนายมณฑลนั้นทำถูกต้องแล้ว เรื่องเรียกร้องสิทธิ์ที่ให้ตนเอง แต่เพียงว่านายมณฑลไม่มีจุดยืน พูดจาเสียหายกับคนที่ช่วยเหลือ ตนคงจะไม่เข้าไปยุ่งเกี่ยวกับนายมณฑลอีกแล้ว แต่ยังมีหน่วยงานที่ต้องคอยดูแลนายมณฑลให้เดินทางเข้ากรุงเทพฯด้วยความปลอดภัย