ข่าวอยุธยา | khaoayutthaya.com | ข่าว | อยุธยา | พระนครศรีอยุธยา | ข่าวด่วน | ข่าวอุบัติเหตุอยุธยา | ข่าวอาชญากรรมอยุธยา | วัดป้อมแก้ว | หลวงพ่อเพิ่ม

สลด กระบะพุ่งชนท้ายรถบรรทุก 18 ล้อ ไฟลุกท่วมคลอกร่างชายวัย 63ดับคาที่

เมื่อเวลา 03.00 น. วันที่ 19 ต.ค.2566 พ.ต.ท.พัชรภัทร์ เนืองพันธ์ สารวัตร(สอบสวน) สภ.บางปะหัน รับแจ้งเหตุรถกระบะชนท้ายรถบรรทุกพ่วง 18 ล้อ เกิดเพลิงลุกไหม้ บนถนนทางหลวงหมายเลข 32 สายเอเชีย ขาออก ช่วงหลักกิโลเมตรที่ 41 ต.หันสัง อ.บางปะหัน จ.พระนครศรีอยุธยา จึงรุดไปตรวจสอบพร้อมรถดับเพลิงและเจ้าหน้าที่มูลนิธิพุทไธสวรรย์

ที่เกิดเหตุกลางถนนพบรถกระบะ ยี่ห้อโตโยต้า ทะเบียน ยจ-7774 ชลบุรี สภาพด้านหน้ารถพังเสียหาย เพลิงกำลังลุกไหม้อย่างรุนแรง เจ้าหน้าที่เร่งระดมฉีดน้ำเพื่อควบคุมเพลิง ใช้เวลาประมาณ 20 นาที สามารถควบคุมเพลิงได้ ตรวจสอบภายในรถ บริเวณที่ที่นั่งด้านคนขับพบผู้เสียชีวิตชื่อ นายธเนส (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 63 ปี สภาพถูกเพลิงไหม้ดำเป็นตอตะโก บนถนนพบเศษชิ้นส่วนอะไหล่รถกระจายเกลื่อนถนน

ห่างไปประมาณ 15 เมตร ที่เลนขวาสุด พบรถบรรทุกพ่วง 18 ล้อ ทะเบียน 71-1184 นครสวรรค์ พ่วงทะเบียน71-1185 นครสวรรค์ ตัวพ่วงด้านซ้าย มีร่องรอยถูกชนจนยุบ ล้อหลังซ้ายแตก คนขับชื่อ นายวิรัติ์ (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 49 ปี ยืนรอให้การกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ

จากการสอบถาม นายวิรัติ์ กล่าวว่า ตนอยู่ระหว่างขับรถบรรทุกทรายมาจาก อ.ป่าโมก จ.อ่างทอง ไปส่งที่ย่านบางนา กรุงเทพฯ ถึงที่เกิดเหตุใกล้กับจุดกลับรถจึงได้เปลี่ยนเลนไปขับชิดขวา เพื่อกลับรถมุ่งหน้าเข้ากรุเทพฯ ได้ยินเสียงดังโครมที่ท้ายรถ จึงรีบจอดรถลงไปดู พบรถกระบะชนท้าย ด้านหน้าพังเสียหาย มีแสงไฟลุกไหม้ที่บริเวณหน้ารถ ขณะเกิดเหตุมีรถหลายคันพยายามจอดช่วยกันดับไฟ แต่ดับไม่ได้เพลิงลุกไหม้อย่างรวดเร็วจนเข้าไปช่วยคนขับออกมาไม่ได้

ด้าน นายจิรพัฒน์ พูลปิติ เจ้าหน้าที่มูลนิธิพุทไธสวรรย์ กล่าวว่า รับแจ้งเหตุรถกระบะชนท้ายรถบรรทุก เพลิงลุกไหม้ จึงรีบมาตรวจสอบ พบรถกระบะมีเพลิงลุกไหม้ ช่วยกันนำถังดับเพลิงมาฉีด เห็นคนขับนั่งอยู่ในรถขาติดช่วงคอนโซนหน้ากดทับ กำลังใช้มือปัดไฟที่แขนที่ขาที่กำลังลุกไหม้ จังหวะนั้นเพลิงลุกไหม้รวดเร็วมาก ไม่สามารถเข้าไปช่วยได้ คนในรถเป็นผู้ชายลักษณะวัยกลางคน ผมขาว เจ้าหน้าที่พยายามช่วยอย่างเต็มที่แล้ว

เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ตรวจสอบร่องรอยการเฉี่ยวชนบนถนน ที่รถยนต์ทั้ง 2 คัน พร้อมทั้งถ่ายภาพไว้เป็นหลักฐาน นำตัวคนขับรถบรรทุกไปสอบสวน ติดตามหาพยานที่เห็นเหตุการณ์สอบสวนเพื่อหาสาเหตุของการเกิดอุบัติเหตุ ดำเนินการตามกระบวนการของกฎหมาย ส่วนร่างของผู้เสียชีวิตได้ส่งไปชันสูตรอย่างละเอียดที่ สถาบันนิติวิทยาศาสตร์ จ.ปทุมธานี พร้อมประสานญาติ เพื่อรับศพไปดำเนินการตามประเพณี




คุณอาจสนใจข่าวนี้

error: เนื้อหา และภาพข่าวมีลิขสิทธิ์ห้ามนำไปเผยแพร่โดยไม่ได้รับอนุญาติ