ทำทีขับกระบะขนของย้ายบ้าน ซุก ‘ต่างด้าว’ 9 คน ไว้ในรถ นำส่งกรุงเทพ
เมื่อวันที่ 10 ตุลาคม พ.ต.ต.ปภินวิทย์ อุดมพร สว.ส.ทล.1 กก.1 บก.ทล.(อยุธยา) กล่าวว่า ยังคงมีการลักลอบขนแรงงานต่างด้าวผิดกฎหมายเข้ามาทำงานในพื้นที่กรุงเทพมหานคร และจังหวัดปริมณฑล ใช้เส้นทางถนนสายหลักและสายรอง จึงสั่งการให้รถยนต์สายตรวจของตำรวจทางหลวง เฝ้าสังเกตและตรวจสอบรถยนต์ที่จะมีการลักลอบขนแรงงานต่างด้าว
โดยเมื่อเวลาประมาณ 14.00 น. รถยนต์สายตรวจ ตำรวจทางหลวง ได้ออกตรวจอยู่บนถนนทางหลวงหมายเลข 32 ช่วงผ่าน จ.พระนครศรีอยุธยา พบรถยนต์นั่งสองตอนท้ายบรรทุก ยี่ห้ออีซูซุ สีเทา ลักษณะบรรทุกของที่มีน้ำหนักโดยมีน้ำหนักมากกว่ารถยนต์ปกติ จึงได้ส่งสัญญาณไฟกะพริบสีแดงและใช้สัญญาณเสียงรวมถึงการพูดออกคำสั่งผ่านไมโครโฟนเรียกรถยนต์คันดังกล่าวให้หยุด แต่รถคันดังกล่าวพยายามหลบหนี จึงได้ขับติดตามไปจนสามารถจับกุมได้ที่บริเวณหลักกิโลเมตรที่ 27 ต.บ่อโพง อ.นครหลวง จ.พระนครศรีอยุธยา
จากการตรวจค้นภายในรถ มี นายพงษ์เพชร อายุ 42 ปี เป็นคนขับรถ ภายในรถพบแรงงานต่างด้าวสัญชาติเมียนมา เป็นชายและหญิง รวม 9 คน ตรวจสอบแรงงานต่างด้าวทั้งหมด ไม่มีหนังสือเดินทางหรือเอกสารที่ใช้แทนหนังสือเดินทางแต่อย่างใดแสดง ตรวจค้นที่ท้ายรถยนต์กระบะพบอุปกรณ์ ข้าวของเครื่องใช้ในครัวเรือนจำนวนมาก เพื่อตบตาเจ้าหน้าที่ตำรวจให้ดูเหมือนว่าบรรทุกของหนักมาเป็นการย้ายบ้าน จึงได้ควบคุมตัวทั้งหมดมาทำการสอบสวน ที่หน่วยบริการตำรวจทางหลวงเอเชีย จ.พระนครศรีอยุธยา
จากการสอบถาม นายพงษ์เพชร อายุ 42 ปี คนขับรถ ทราบว่า มีชายไทยไม่ทราบชื่อและนามสกุลจริง โทรศัพท์ติดต่อว่าจ้างให้ไปรับแรงงานต่างด้าวที่บริเวณป่าข้างทาง พื้นที่ อ.วังเจ้า จ.ตาก จำนวน 9 คน เพื่อไปส่งที่กรุงเทพมหานคร ยังไม่ทราบว่าไปส่งจุดไหน ถ้าเข้าใกล้พื้นที่กรุงเทพฯ แล้วจะแจ้งจุดให้ทราบอีกครั้ง โดยได้รับค่าจ้างคนละ 1,000 บาท ปกติตนเองจะประกอบอาชีพปลูกมัน แต่รายได้ไม่พอใช้ จึงรับจ้างมาขนแรงงานต่างด้าว มีการชักชวน บอกต่อกัน ครั้งนี้มีเพื่อนในหมู่บ้าน รับจ้างมาด้วยกันหลบหนีการจับกุมไปได้
จากการสอบถาม แรงงานต่างด้าวที่ถูกจับกุม ผ่านล่ามแปลภาษาเมียนมาให้การยอมรับว่า ได้ลักลอบเดินทางเข้ามาในประเทศไทยทางช่องทางธรรมชาติและเดินข้ามมาในพื้นที่ อ.แม่สอด จ.ตาก และจะมีคนพาออกมาขึ้นรถที่นำพา เพื่อจะเข้ามาหางานทำในประเทศไทย โดยยังไม่ได้เสียค่าใช้จ่าย เมื่อถึงปลายทาง จะมีญาติ เป็นคนจ่ายเงินให้กับนายหน้าที่นำพาเข้าประเทศไทย ในราคาประมาณ 12,000 บาทต่อคน ซึ่งถ้ารวมทั้งหมด 9 คน จึงเป็นเงินกว่า 108,000 บาท
เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมให้ข้อมูลว่า จะเห็นได้ว่าตำรวจทางหลวงมีการจับกุมแรงงานต่างด้าวที่ใช้รถยนต์ชนิดต่างๆ ลักลอบขนแรงงานต่างด้าวบ่อยครั้ง เนื่องจากได้รับค่าจ้างเป็นรายหัว ได้รายได้ดี มีการชักชวนบอกต่อกันภายในหมู่บ้านในชุมชน มากันหลายๆ คันในแต่ละครั้ง บางคันถูกจับกุม บางคันหลบหนีไปได้
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจทางหลวงอยุธยา ได้จัดหาข้าวกล่องและน้ำดื่มให้กับกลุ่มแรงงานต่างด้าวที่ถูกจับกุมกินด้วย เนื่องจากตั้งแต่เดินทางมาตามเส้นทางธรรมชาติจนมาถูกจับกุมยังไม่ได้กินข้าวเลย เนื่องจากเกรงว่าถ้าจอดรถแวะกินข้าวอาจจะถูกจับกุมตัวได้ หลังจากกินข้าวเสร็จเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้ควบคุมตัวผู้ต้องหาทั้งหมดส่งพนักงานสอบสวน สภ.นครหลวง จ.พระนครศรีอยุธยา ดำเนินคดีต่อไป