ข่าวอยุธยา | khaoayutthaya.com | ข่าว | อยุธยา | พระนครศรีอยุธยา | ข่าวด่วน | ข่าวอุบัติเหตุอยุธยา | ข่าวอาชญากรรมอยุธยา | วัดป้อมแก้ว | หลวงพ่อเพิ่ม

สาวแค้นซื้อรถจยย. แล้วถูกคนขายย้อนกลับ มาขโมยวางแผนล่อซื้อ ปล้นเอารถจยย.คืน

ผู้สื่อข่าวรายว่าเมื่อกลางดึก วันที่ 23 มิถุนายน ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เสนา จ.พระนครศรีอยุธยา ได้รับแจ้ง มีชายถูกทำร้ายร่างกายแล้วถูกกลุ่มชายฉกรรจ์อุ้มตัวขึ้นรถยนต์ เก๋ง นำไปทิ้งไว้ที่ พื้นที่ อ.ผักไห่ จ.พระนครศรีอยุธยา มีบาดแผลถูกตีด้วยของแข็งที่บริเวณ ศีรษะ เย็บจำนวน 6 เข็ม ทราบชื่อนาย ธนยศ อายุ 26 ปี ชาว จ.สุพรรณบุรี

จากการสอบถาม ทราบว่าถูกกลุ่มชายฉกรรจ์ จำนวน 5 คน หญิง 1 คน ขับรถยนต์ กระบะ ตู้ทึบ 1 คัน รถยนต์เก๋ง 1 คัน นัดซื้อขายรถจักรยานยนต์กัน ภายในบริเวณ ลานวัด สุธาโภชน์ ต.สามกอ อ.เสนา จ.พระนครศรีอยุธยา ระหว่างนั้นถูกกุล่มชายฉกรรจ์ เข้ามาใช้ขวด ตีที่ศีรษะจนล้มลง แล้วลุ่มชายฉกรรจ์ ได้พาตัวเองขึ้นรถยนต์เก๋ง นำไปทิ้ง

ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจได้วิทยุสกัดจับกุมรถยนต์กระบะ มิติซูบิชิ มีขาวหมายเลข ทะเบียน 3ฒฐ-9451 กรุงเทพมหานคร ตรวจค้นภายในกระบะพบรถจักรยานยนต์ บิ๊กไบก์ 1 คัน มีนาย อุเทน อายุ 31 ปี ชาว จ.บุรีรัมย์เป็นคนขับ นางสาวปรีญาภรณ์ อายุ 36 ปี ชาว จ.สุโขทัย นั่งมาในรถด้วยกัน ไปติดตามจับกุมได้ในพื้นที่ อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี

ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่ บริเวณลานจอดรถของวัดสุทธาโภชน์ ต.บางนมโค อ.เสนา จ.พระนครศรีอยุธยา ซึ่งเป็นจุดเกิดเหตุปล้นทรัพย์ พบเศษขวดเบียร์ แตกกระจายเกลื่อน รอยเลือดหยดเป็นทาง จีพีเอสติดตามรถยนต์ตกอยู่ 1 เครื่อง

จากการสอบถามนายบอย พี่ชาย นายอุเทน คนขับรถยนต์กระบะ เล่าว่า ทราบว่าน้องชายถูกจับกุมตัวจึงเดินทางมาดู ตนเองและน้องชายให้บริการรับส่งขนย้ายสินค้า น้องชายบอกว่า มีคนว่าจ้างให้ ไปรับรถจักรยานยนต์เพื่อไปส่ง แต่ต่อมาพบว่า รถจักรยานยนต์ได้หายไปจากรถตู้ทึบของน้องชายที่จอดเอาไว้ที่หอพัก ก่อนที่จะส่งให้ลูกค้า

จึงตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิด บันทึกภาพเมื่อช่วงเวลาประมาณ 00.17 น.วันที่21 มิ.ย. 2566 พบ ว่ามี ชาย 3 คน ใช้รถยนต์เก๋ง มาขโมยเอารถจักรยานยนต์ไปจากรถยนต์กระบะตู้ทึบ ทีจอดไว้ภายในหอพัก ที่ จ.นครปฐม ซึ่งหนึ่งในคนร้าย 3 คน จำได้ว่าเป็น เป็นเจ้าของรถจักรยานยนต์ที่ไปรับรถจยย.มา ต่อมาพบว่า รถจักรยานยนต์ที่ขโมยไปมีการนำมาโพสต์ขายในราคาถูก จากนั้นตนเองไม่ทราบว่าน้องชายมาอยู่ในเหตุการณ์นี้ได้อย่างไร

ต่อมาเมื่อเวลา 12.00 น. พล.ต.ต.ชยานนท์ มีสติ ผบก. พ.ต.อ.พ.ต.อ.ธีรวุฒิ แสงมณี รอง ผบก.ภ.จว.พระนครศรีอยุธยา พ.ต.อ.เสวก เอี่ยมมงคล ผกก.สภ.เสนา จ.พระนครศรีอยุธยา เรียกประชุมเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน ภ.จว.พระนครศรีอยุธยา สภ.เสนา สภ.ผักไห่ เพื่อติดตามความคืบหน้าของคดี ใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง

ภายหลังการประชุม พล.ต.ต.ชยานนท์ มีสติ ผบก ภ.จว.พระนครศรีอยุธยา เปิดเผยว่า หลังเจ้าหน้าที่ตำรวจรับแจ้งมีคนร้ายประมาณ 6 คนก่อเหตุปล้นทรัพย์เป็นรถจยย.โดยการทำร้ายทุบตีผู้เสียหาย แล้วพาขึ้นรถยนต์เก๋งนำตัวผู้เสียหายไปทิ้งในพื้นที่ อ.ผักไห่ เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ติดตามจับกุมรถยนต์กระบะ และผู้ต้องหาได้ 2 คน จึงได้ควบคุมตัวดำเนินคดีในข้อหาร่วมก้นปล้นทรัพย์ ในเสลากลางคืน โดยใช้ยานพาหนะเพื่อความสะดวกในการพาทรัพย์นั้นไปหรือเพื่อให้พ้นการจับกุม ส่วนกลุ่มผู้ต้องหาที่เหลืออีก4 คน ขณะนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจทราบตัวทั้งหมดแล้วอยู่ระหว่างการรวบรวมพยานหลักฐาน เพื่อออกหมายจับและติดตามจับกุมตัว ในขณะนี้เราดำเนินการในเรื่องของการปล้นทรัพย์ก่อน

ส่วนการสืบสวนขยายผลฉนวนเหตุของการก่อเหตุว่ามาจากสาเหตุใดเกิดจากการหักหลังกันมีการซื้อขายรถจยย.แล้ว กลับมาขโมยไปขายต่ออีกรอบ แล้วมาวางแผนดักชิงรถจยย.กัน อยู่ระหว่างการสืบสวน หากพบว่ามีการกระทำความผิดในส่วนใดใครใครผิดบ้างจะดำเนินการต่อไป การให้การของผู้ต้องหาและผู้เสียหายยังมีหลายประเด็นที่มีความซับซ้อนเกี่ยวโยงกัน ถึงเรื่องการซื้อขายรถ

นางสาวปรีญาภรณ์ โคคำ อายุ 36 ปี ผู้ต้องหา เปิดเผยว่า ตนเองมีการติดต่อซื้อขายรถจักรยานยนต์ จากชายคนหนึ่ง ในราคา 64,000 บาท ยอมรับว่า รู้แล้วว่าเป็นรถที่ผิดกฎหมาย รถขาดการส่งจากบริษัทไฟแนนซ์ หลุดจำนำ และ มีการนัดส่งมอบรถจยย.ในพื้นที่ จ.นครปฐม ตนจึงว่าจ้างรถรับขนส่ง ให้ไปรับ มีการโยกย้ายสถานที่รับรถจยย. ถึง 2 สถานที่ จนมีการส่งมอบรถกัน ทางพนักงานขับรถส่งสินค้า ขอเอกสารและบัตรประชาชนของ ผู้ที่นำรถมาส่ง บ่ายเบี่ยงไปมา จึงยอมให้ถ่าย พบว่า ใบขับขี่ เป็นผู้ชาย ชื่อในเอกสารเช่าซื้อรถ เป็นผู้หญิง ส่วนผู้ชายจำนามสกุลได้ คือ นาย ธนยศ ผู้บาดเจ็บ หลังมีการถ่ายภาพและเอกสารส่ง มาให้ตนจึงได้มีการ โอนเงินให้ พร้อมกับรับรถกลับมาโดยรถที่รับจ้างขนส่งสินค้าจะนำรถมาส่งให้ตน

แต่มาทราบว่ารถของตนเองถูกขโมยไปก่อนที่จะนำมาส่งมอบให้ตน และตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิดพบว่า มีคนขโมยเอารถไปคือ นาย ธนยศ ผู้บาดเจ็บที่นำรถมาขาย ตนเองใช้เวลาคิดอยู่ 1 วัน หาทางที่จะเอารถคืนหรือเอาเงินคืน จึงได้ ปลอมตัวไปติดต่อขอซื้อรถจากนาย ธนยศ ผู้บาดเจ็บ จนมีการนัดส่งมอบรถยนต์ กันที่เกิดเหตุ ตนขอเปิดเผยรายละเอียดเท่านี้

ส่วนเรื่องราวที่เกิดเหตุไม่ขอเปิดเผย ยอมรับว่าสิ่งที่ทำไปผิดกฎหมาย ใช้ระบบศาลเตี้ย เพราะไม่มั่นในกระบวนการยุมติธรรม และเกิดความโกรธแค้น เมื่อ นาย ธนยศ ผู้บาดเจ็บไม่ใช่ลูกผู้ชายขายรถแล้วยังมาขโมยกลับไป ขอยอมรับผิดในส่วนที่ตนเองกระทำไป

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากการตรวจสอบผู้เช่าซื่อรถจยยไม่ใช่นาย นาย ธนยศ โดยนาย ธนยศ มีการนำรถจยย.ที่ขาดการผ่อนส่งกับบริษัทไฟแนนซ์นำมาขาย โดยมีการติดตั้งจีพีเอสไว้ที่ รถจยย. เมื่อขายรถไปแล้ว ได้ติดตามไปขโมย รถจยย.กลับคืนมาขายต่ออีกทอดหนึ่ง ทาง นางสาวปรีญาภรณ์ ผู้ต้องหาทราบว่ามีการนำรถจักรยานยนต์มาขาย จึงได้มีการวางแผนล่อซื้อรถจักรยานยนต์ กันภายในบริเวณวัดเมื่อพบรถจักรยานยนต์จึงได้ทำการชิงรถจักรยานยนต์และทำร้ายร่างกาย นำตัวผู้เสียหายไปทิ้ง จนมาถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจจับกุมตัว




คุณอาจสนใจข่าวนี้

error: เนื้อหา และภาพข่าวมีลิขสิทธิ์ห้ามนำไปเผยแพร่โดยไม่ได้รับอนุญาติ