หนุ่มโรงงานผวาบ้านถูกลอบวางเพลิง 2 รอบ แถมติดป้ายข่มขู่ แจ้ง ตร.เรื่องเงียบ
ผู้สื่อข่าว ได้รับการร้องเรียน จาก นาย ทิพย์ตะวัน แตงสุข อายุ 19 ปี ว่าที่บ้านพักของตนเอง เลขที่ 63/2 หมู่ 7 ต.บ่อโพง อ.นครหลวง จ.พระนครศรีอยุธยา ถูกคนร้ายลอบวางเพลิงมาแล้ว 2 ครั้ง แถมมีการติดป้ายข่มขู่เอาไว้หน้าบ้าน จนหวาดผวาไม่กล้าพักอาศัยที่บ้าน ต้องหลบไปอยู่กับญาติที่ปลอดภัย
จึงเดินทางไปตรวจสอบพบว่าเป็นบ้านไม้ชั้นเดียว ใต้ถุนสูง ไม่มีรั้วล้อมรอบ อยู่บริเวณท้ายซอยของชุมชน นาย ทิพย์ตะวัน แตงสุข อายุ 19 ปี และ นางสาวมยุรี พรหมมี อายุ 34 ปี พี่สาว พาผู้สื่อข่าวตรวจสอบร่องรอยความเสียหาย ที่ถูกคนร้ายวางเพลิง พบว่าตัวพื้นบ้าน ซึ่งเป็นไม้ วงกบหน้าต่างประตู ถูกไฟไหม้ได้รับความเสียหาย เสื้อผ้า ถูกเพลิงไหม้ได้รับความเสียหายเช่นเดียวกัน
นายทิพย์ตะวัน กล่าวว่า ทำงานอยู่โรงงานแห่งหนึ่งใน จ.พระนครศรีอยุธยา จะไปทำงานแต่เช้าและเลิกงานช่วงเย็น จะพักผ่อนอยู่บ้านหลังนี้ไมได้ออกไปไหน หรือมีปัญหาความขัดแย้งกับใครมาก่อน บ้านของตนเองถูกเพลิงไหม้มาแล้ว 2 ครั้ง โดยครั้งแรกเมื่อประมาณกุมภาพันธ์ 2566 ห้องชั้นล่างของบ้าน ไฟไหม้เสื้อผ้าข้าวของเสียหาย ครั้งดับไฟได้ทัน พบหลักฐานกางเกงขาสั้นที่ชุบน้ำมันแล้วโยนเข้าในห้อง
จนล่าสุดเมื่อวันที่ 5 มิถุนายน ช่วงกลางวัน ไม่ได้อยู่บ้าน เกิดเพลิงไหม้อีกครั้งที่ชั้นบนของบ้าน ยังโชคดีที่ชาวบ้านเห็นว่าไฟกำลังไหม้ช่วยกันดับไว้ได้ ตนเลิกงานกลับมาบ้านจึงทราบว่าบ้านถูกไฟไหม้ สำรวจความเสียหาย จึงพบร่องรอย คราบน้ำมัน ที่ถูกราดตั้งแต่บันไดบ้าน จนมาถึงบนบ้าน จึงรู้ว่าเกิดจากการวางเพลิง และยังพบแผ่นกระดาษ ขนาด A 4 พิมพ์ ตัวหนังสือ ขนาดใหญ่ ข้อความว่า “นี่คือผลของการยืมเงินแล้วไม่คืน” ถูกแปะไว้ที่เสาไฟหน้าบ้าน คาดว่าน่าจะเป็นของคนร้ายที่มาก่อเหตุวางเพลิงแล้วได้เขียนจดหมายข่มขู่ ทิ้งไว้ เกิดเหตุการณ์บ้านถูกลอบวางเพลิง 2 ครั้ง และถูกข่มขู่ ตนเองเกิดความกลัว ว่าจะไม่ปลอดภัย หากคนร้ายมาช่วงที่ตนเองอยู่บ้าน จะถูกทำร้ายเอาชีวิตได้ หรือมาวางเพลิงซ้ำอีกขณะที่ตนเองอยู่บ้านจะเกิดอันตราย จึงต้องมาขนย้ายข้าวของออกจากบ้านไปอาศัยกับญาติอยู่ก่อน เพื่อความปลอดภัย
ส่วนสาเหตุที่ถูกคนร้ายลอบวางเพลิงและข่มขู่ ส่วนตัวไม่เคยมีปัญหา ทะเลาะวิวาท มีปากเสียง กับใครมาก่อน รวมถึงตามข้อความที่คนร้ายมาติดข่มขู่เอาไว้ ตนเองไม่เคยไปกู้เงินนอกระบบ หรือไปยืมใครมาแล้วไม่ใช้
นางสาวมยุรี พี่สาว กล่าวว่า สงสารน้องชายมากเพราะน้องชายเป็นคนดีไม่ค่อยไปยุ่งเกี่ยวกับใครทำแต่งาน โดย ก่อนหน้านี้ น้องชายจะอาศัยอยู่กับแม่ 2 คน มานานกว่า 10 ปี ต่อมาแม่เสียชีวิต จึงพักอาศัยอยู่คนเดียว ส่วนตนเองมีครอบครัวแยกไปอยู่กับครอบครัว มั่นใจว่าน้องชายไม่เคยไปมีเรื่องกับใคร หรือน้องชายอาจจะถูก วัยรุ่นหรือใครเขม่น หรือไม่ก็ไม่ทราบ แต่ไม่น่าจะต้องถึงขนาดมาวางเพลิงเผาบ้านกัน หลังเกิดเหตุน้องชายได้แจ้งความตำรวจ สภ.นครหลวง จ.พระนครศรีอยุธยา แล้วได้มีการมาตรวจสอบ เก็บพยานหลักฐานต่างๆแล้ว ซึ่งเหตุการณ์มันเกิดขึ้นซ้ำกันถึง2 ครั้งแล้ว อยากให้เจ้าหน้าที่ตำรวจ เร่งรัดติดตามคนร้ายมาดำเนินคดี หรือสาเหตุของการเกิดเพลิงไหม้ให้ชัดเจนเพราะจะได้กลับเข้ามาใช้ชีวิตอยู่ที่บ้านหลังนี้ตามปกติ