ผู้ตรวจการคมนาคม ตรวจด่านชั่งน้ำหนักอยุธยามั่นใจระบบ ตรวจสอบรถน้ำเกินได้
ผู้ตรวจการกระทรวงคมนาคม ตรวจด่านชั่งน้ำหนักอยุธยา มั่นใจแก้ไขส่วยสติ๊กเกอร์รถบรรทุกได้ในอนาคต พร้อมตั้งกรรมการสอบเจ้าหน้าที่เกี่ยวข้อง
เมื่อวันที่ 7 มิถุนายน ที่สถานีตรวจสอบน้ำหนักอยุธยา (ขาเข้า) ทางหลวงหมายเลข 347 ปทุมธานี-บางปะหัน กม.34 ต.ปากกราน อ.พระนครศรีอยุธยา จ.พระนครศรีอยุธยา
นายมนตรี เดชาสกุลสม ผู้ตรวจการกระทรวงคมนาคม พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ นำสื่อมวลชนเข้าตรวจสอบสถานีชั่งน้ำหนัก กรณีส่วยสติ๊กเกอร์รถบรรทุก
นายมนตรีกล่าวว่า วันนี้เป็นการตรวจสอบขั้นตอนการทำงานของสถานีชั่งน้ำหนักว่ามีส่วนเกี่ยวข้องกับส่วยสติ๊กเกอร์รถบรรทุกตามที่เป็นข่าวหรือไม่ ซึ่งทางหน่วยงานจะมีการนำเทคโนโลยีและสอบสวนบุคลากรว่ามีส่วนเกี่ยวข้องกับส่วยสติ๊กเกอร์รถบรรทุกหรือไม่ รวมถึงการหาลักษณะหรือชนิดประเภทความหมายของสติ๊กเกอร์ ตลอดจนการนำเทคโนโลยีสมัยใหม่นำมาใช้ในด่านชั่งน้ำหนัก 97 จุดทั่วประเทศและจะมีการสร้างเพิ่มตามความเหมาะสม
ส่วนที่สถานีตรวจสอบน้ำหนักอยุธยา (ขาเข้า) ทางหลวงหมายเลข 347 ควบคุมด้วยระบบอัตโนมัติสามารถคัดแยกรถบรรทุกเข้าตรวจสอบน้ำหนักและส่งค่าน้ำหนักไปยังส่วนกลาง หากน้ำหนักไม่เกินกฎหมายกำหนดก็สามารถผ่านด่านได้ตามปกติ แต่หากน้ำหนักเกินด่านชั่งน้ำหนักถาวรที่ตรวจซ้ำอีกครั้งจะมีการทำบันทึกจับกุมส่งตัวไปยังสถานีตำรวจแต่ละท้องที่ ก่อนส่งให้ศาลพิจารณา โดยมีอัตราโทษจำคุก 6 เดือน ปรับไม่เกิน 10,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
ซึ่งเมื่อช่วงเช้าได้ตรวจสอบชั่งน้ำหนักรถบรรทุกพบว่ามีน้ำเกินจำนวน 2 คัน ได้ดำเนินการตามกระบวนการของกฎหมาย
ที่ผ่านมาได้มีการโยกย้ายเจ้าหน้าที่ผู้กระทำความผิดอยู่ตลอดไม่ได้มีการปล่อยปละละเลย และกรณีที่สหพันธ์การขนส่งแห่งประเทศไทยออกมาเผยรายชื่อเจ้าหน้าที่ทางหลวงสถานีตรวจสอบน้ำหนักสุวินทวงศ์ ว่ามีส่วนเกี่ยวข้องกับส่วยสติ๊กเกอร์รถบรรทุก โดยมีพฤติกรรมเป็นเจ้าของหรือทำสติ๊กเกอร์แจกจ่ายให้กับรถบรรทุก
ขณะนี้ได้สั่งการให้โยกย้ายไปปฏิบัติหน้าที่ยังสถานีตรวจสอบน้ำหนักสระแก้ว ตลอดจนตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง หากพบมีผู้บังคับบัญชาเกี่ยวข้องหรือเจ้าหน้าที่ระดับใดก็จะดำเนินการตามกฎหมายไม่มีข้อยกเว้น
นอกจากนี้กระทรวงคมนาคมจะต้องบูรณาการร่วมกับกระทรวงพาณิชย์ เพื่อตรวจสอบอุปกรณ์และเทคโนโลยีที่ประจำด่านชั่งน้ำหนักทั่วประเทศให้คงคุณภาพให้ผู้ประกอบการมีความมั่นใจในการปฏิบัติตามข้อบังคับในการบรรทุกสินค้า อย่างไรก็ตามเชื่อว่าการตีแผ่ข้อมูลเรื่องส่วยสติ๊กเกอร์รถบรรทุกจะทำให้สถานการณ์ดีขึ้นและหมดไปในอนาคต
ส่วน นายอลงกรณ์ พรหมศิลป์ ผู้อำนวยการสำนักงานควบคุมน้ำหนักยานพาหนะ ยอมรับว่าปี 2563-2566 กรมทางหลวงสามารถจับกุมผู้ที่กระทำความผิดได้เพิ่มขึ้นกว่า 60 เปอร์เซ็นต์ เนื่องจากตำรวจทางหลวงมีสถานีควบคุมชั่งน้ำหนักทั่วประเทศ โดยเฉพาะในพื้นที่ไม่มีด่านชั่งน้ำหนักก็จะมีระบบพอยต์เช็กที่สามารถจับกุมผู้กระทำความผิดได้จำนวนมาก ซึ่งแต่ละสถานีชั่งน้ำหนักสามารถครอบคลุมรัศมีในพื้นที่ 8 กิโลเมตร