หนุ่ม 19 ปี ขับจักรยานยนต์ฝ่าสายฝนกลับบ้าน เสียหลัก ชนท้ายรถบรรทุกจอดริมถนน เสียชีวิต
เมื่อเวลา 04.30 น.วันที่ 28 พฤษภาคม 2566 พ.ต.ท.นราธิป สุทนต์ รองผกก.สอบสวน สภ.บางปะอิน จ.พระนครศรีอยุธยา ได้รับแจ้งเกิดอุบัติเหตุรถจักรยานยนต์ชนท้ายรถยนต์บรรทุกพ่วง มีผู้เสียชีวิต 1 ราย บนถนนโรจนะขาออก มุ่งหน้าไปอำเภอวังน้อย บริเวณหลักกิโลเมตรที่ 11 – 12 หมู่ที่ 4 ต.บ้านสร้าง อ.บางปะอิน จ.พระนครศรีอยุธยา ไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ พรอ้มประสาน สมาคมอยุธยารวมใจ หน่วยกู้ภัยอยุธยา ไปให้การสนับสนุน
พบว่าที่เกิดเหตุมีฝนตกโปรบปรายตลอดเวลา ริมถนนพบรถยนต์บรรทุก พ่วง 18 ล้อ สีขาว หมายเลขทะเบียนตัวแม่ 68 – 5157 กรุงเทพมหานคร หมายเลขทะเบียนตัวลุก 68 – 5152 กรุงเทพมหานคร ที่บริเวณท้ายรถบรรทุกพ่วงด้านขวา มีร่องรอยถูกชน ใกล้กันพบรถจักรยานยนต์ ยามาฮ่า สีดำ หมายเลขทะเบียน 1 กผ 7239 พระนครศรีอยุธยา สภาพด้านหน้าพังเสียหายยังเยิน ใกล้กันยังพบผู้เสียชีวิต 1 ราย ตรวจสอบเอกสารภายในตัวผู้เสียชีวิตทราบชื่อ นาย จักรพงค์ อายุ 19 ปี ชาวหมู่ที่ 7 ตำบลบ้านสร้าง อำเภอบางปะอิน จังหวัดพระนครศรีอยุธยา สวมใส่เสื้อแขนยาวสีดำ กางเกงขายาวสีดำ มีบาดแผลฉกรรจ์ที่ศีรษะ เศษมันสมองกระจายที่รถบรรทุกและพื้นถนน และมีบาดแผลตามร่างกาย
นาย ลำไพ อายุ 50 ปี ชาว จังหวัดกาฬสินธุ์ เป็นคนขับรถยนต์บรรทุก เล่าว่า
ตนเองรับสินค้ามาจากบริษัทแห่งหนึ่งใกล้กับที่เกิดเหตุ เตรียมจะเดินทางไปส่งสินค้าที่ จ.นครรา ชสีมา จอดรถไว้ที่ริมถนนเพื่อที่จะอาบน้ำเตรียมที่จะเดินทาง ขณะกำลังอาบน้ำอยู่ มีเพื่อนมาตบอกว่ามีรถจักรายานยนต์มาชนท้ายจึงรีบออกมาดู พบว่ามีรถจักรยานยนต์ชนท้ายและมีผู้เสียชีวิต ตกใจมากไม่เคยเจอเหตุการณ์แบบนี้ และรีบแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจทันที เสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นไม่คิดว่าจะมาเจอแบบนี้
ด้าน นางสาว สุภาพร อายุ 45 ปี แม่ของผู้เสียชีวิต พอทราบว่าลูกชายประสบอุบัติเหตุรีบมาดูทันที ยังอยู่ในอาการตกใจและโศกเศร้าจับมือลูกชาย ขอให้ลูกไปดี ไม่คิดว่าจะมาเกิดเหตุการณ์แบบนี้ เมื่อเย็นยังกินข้าวด้วยกันที่บ้านอยู่เลย บอกเพียงว่าลูกชายไปหาเพื่อน กำลังจะกลับบ้านไม่กี่กิโลก็จะถึงบ้านแล้วแต่ก็มาเกิดอุบัติเหตุเสียก่อน
ด้านเจ้าหน้าที่ตำรวจสันนิษฐานว่า ว่าผู้เสียชีวิต ขับขี่รถจักรยานยนต์กำลังกลับบ้านพัก ซึ่งมีฝนตกทำให้ถนนลื่น เมื่อมาถึงที่เกิดเหตุ รถเกิดเสียหลัก พุ่งชนท้ายรถบรรทุกพ่วงที่จอดริมถนน จนทำให้เสียชี เพื่อดำเนินการตามกระบวนของกฎหมาย ส่วนร่างผู้เสียชีวิตให้เจ้าหน้าที่สมาคมอยุธยารวมใจหน่วยกู้ภัยอยุธยา ส่งชันสูตรเพิ่มเติมอย่างละเอียดอีกครั้งที่สถาบันนิติวิทยาศาสตร์โรงพยาบาลธรรมศาสตร์ เฉลิมพระเกียรติ จ.ปทุมธานี ต่อไป