ตำรวจจับแก๊งชัยป่างิ้วขโมยรถจยย.โจรสายมู ใช้พวงมาลัย ไหว้แม่ย่านางรถขอขมา
วันที่ 14 มีนาคม 2566 ที่กองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดพระนครศรีอยุธยา พล.ต.ต.ชยานนท์ มีสติผบก.ภ.จว.พระนครศรีอยุธยา พ.ต.อ.ธีระวุฒิ แสงมณี รอง ผบกก.จว.
พระนครศรีอยุธยา ร่วมกันแถลงข่าว การจับกุมแก๊งโจรกรรมรถจักรยานยนต์รายใหญ่ ตระเวนก่อเหตุขโมยรถจักรยานยนต์ ตามบ้านเรือน หอพัก ลานจอดรถ ทั้งในพื้นที่จังหวัดพระนครศรีอยุธยา สระบุรี ลพบุรี อ่างทอง
ได้ผู้ต้องหาที่ร่วมกันก่อเหตุ 2 คนคือนาย นายขวัญชัย งามราม อายุ 39 ปี และ นายสมคิด หรือหน่ายอดมีกลิ่น อายุ 29 ปี ท เป็นชาว ต.ป่างิ้ว อ.เมืองอ่างทอง จ.อ่างทอง พร้อมด้วยของกลางเป็นรถจักรยานยนต์ ชิ้นส่วนอะไหล่รถจักรยานยนต์ จำนวนหลายรายการ
พล.ต.ต.ชยานนท์ มีสติ ผบก.ภ.จว.พระนครศรีอยุธยา กล่าวว่า ผู้ต้องหาทั้ง 2 คน ได้ออกตระเวนขับขี่รถจักรยานยนต์ เข้าไปก่อเหตุขโมยรถจักรยานยนต์ ในพื้นที่ ของพระนครศรีอยุธยา และจังหวัดใกล้เคียง โดยตั้งแต่ช่วงเดือด พฤศจิกายน 2565 จนถึงเดือน มีนาคม 2566 ก่อเหตุมาแล้ว 10 ครั้ง ได้รถจักรยานยนต์แล้วนำไปขายคันละ5,000-7,000 บาท ตามสภาพความสวยงามของรถจักรยานยนต์ จะเลือกเฉพาะรถจักรยานยนต์ฮอนด้าเวฟ ซึ่งจะขายได้ราคานี้และนายทุน จะสั่งและให้ราคาดี โดยจะเลือกรถที่จอดในที่ลับตา จะใช้เท้าถีบที่ แฮนด์รถจักรยานยนต์ให้ที่ ล็อคหลุดหรือหักและต่อสายตรง นำรถจักรยานยนต์หลบหนี
โดยในการก่อเหตุทุกครั้งจะนำไปขายให้กับนายตาล ซึ่งเปิดอู่ช่อมรถจักรยานยนต์ ในพื้นที่สภ.บางปะอิน เพื่อชำแหละขายเป็นอะไหล่ ซึ่ง ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจะได้รวบรวมพยานหลักฐาน และขยายผลติดตามจับกุมผู้ร่วมขบวนการทั้งหมดต่อไป
พร้อมขอฝากประชาสัมพันธ์ให้ประชาชน ให้ระมัดระวังในการจอดรถ อย่าจอดรถในที่เปลี่ยวหรือลับตาคน รวมทั้งให้ใช้อุปกรณ์เสริมในการป้องกันให้หน้าแน่นยิ่งขึ้น
ทั้งนี้พฤติกรรทกลุ่มคนร้าย ยังมีพฤติกรรมแปลกเชื่อในเรื่องโชคลาง โดยจะเตรียมพวงมาลัย เพื่อไหว้แม่ย่านางรถคันที่ใช้ก่อเหตุและรถที่ลักทรัพย์มา หวังเพื่อเป็นการแก้เคล็ดให้พ้นการจับกุม แต่ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจขอยืนยันว่าคนผิดแม่ย่านาง หรือสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ก็ไม่คุ้มครองทำให้จับกุมได้ในที่สุด
ด้าน นางนิสากร รุ่งสว่าง อายุ 66 ปี 1 ในผู้เสียหายเดินทางมาดูรถจักรยานยนต์หลังจากตำรวจจับกุมคนร้ายได้ กล่าวว่า ตนเองดีใจ รถของตนเองถูกขโมยไปเมื่อวันที่ 27 มกราคม เวลา ประมาณ23.00น. บริเวณสี่แยกบ้านม้า หมู่ 4 ต.บ้านม้า อ.บางปะหัน จ.พระนครศรีอยุธยา เนื่องจากลูกชายขับไปทำงานและจะจอดไว้กระทั้งเช้ากลับมาพบรถหายไป จึงเดินทางไปแจ้งความไว้ที่ สภ.บางปะหัน และไม่เคยคิดว่าจะได้รถคืน กระทั่งเจ้าหน้าที่ตำรวจ แจ้งว่าจับคนร้ายได้แล้ว พร้อมของกลาง ตนเองจึงรีบมาดูถึงแม้ว่าจะไม่ได้อยู่สภาพเดิม แต่ก็ดีใจที่ได้คืน
