ส่งมอบความห่วงใย สร้างความปลอดภัย ให้เด็กเล็ก กลุ่ม608 ฉีดวัคซีน ป้องกันโควิด19

ส่งมอบความห่วงใย สร้างความปลอดภัย ให้เด็กเล็ก กลุ่ม608 ฉีดวัคซีน ป้องกันโควิด19

ที่โรงเรียนปัณณวิชญ์ อ.บางปะอิน จ.พระนครศรีอยุธยา นายประทีป การมิตรี รองผวจ.พระนครศรีอยุธยา นพ.ยุทธนา วรรณโพธิ์กลาง นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดพระนครศรีอยุธยา พร้อมด้วยแพทย์ พยาบาล ดร.ฉันทนา เปียทอง ผู้อำนวยการโรงเรียนปัณณวิชญ์ รณรงค์ฉีดวัคซีนป้องกันโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ซึ่งเป็นวัคซีนไฟเซอร์ (ฝาสีแดง) สำหรับเด็กอายุ 6 เดือนถึง 4 ปี และวัคซีนไฟเซอร์ (ฝาสีม่วง) สำหรับเด็กอายุ 5 ปีขึ้นไป และกลุ่ม 608 โดยมีผู้ปกครองพาบุตรหลานเข้ารับการฉีดวัคซีนอย่างพร้อมเพรียง

โดยเด็กนักเรียนที่มารับวัคซีนจะได้รับการซักประวัติ กรอกข้อมูล และรอรับวัคซีน มีเจ้าหน้าที่พยาบาลให้คำแนะนำ ซึ่งเด็กบางคนก็กลัวต้องมีผู้ปกครองคอยปลอบใจ แต่บางคนก็ยอมให้เจ้าหน้าที่ฉีดโดยที่ไม่ร้องไห้เลย ซึ่งผู้ปกครองที่พาบุตรหลานมาฉีดวัคซีน ต่างก็บอกเป็นเสียงเดียวกันว่า ที่ให้ลูกหลานฉีดวัคซีนก็เพื่อความมั่นใจ ว่าบุตรหลานจะมีภูมิคุ้มกัน หากติดเชื้ออาการก็จะไม่รุนแรงจากโรคโควิด-19

นพ.ยุทธนา วรรณโพธิ์กลาง นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดพระนครศรีอยุธยา กล่าวว่า จากการคาดการณ์ว่าในช่วงปลายปี้อาจจะมีการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด19 เพิ่มมากขึ้น ซึ่งเด็กๆ จะมีความระมัดระวังการรวมกลุ่ม การเล่น การป้องกันตนเอง ไม่เหมือนกับผู้ใหญ่ จึงต้องสร้างภูมิคุ้มกันให้กับเด็ก โดยในเด็กอายุ 6 เดือน-4 ปี จะได้วัคซีนโควิด-19 ไฟเซอร์ (ฝาสีแดง) สำหรับเด็ก 6 เดือน-4 ปี ห่างกันอย่างน้อย 4 สัปดาห์ในเข็มที่ 1 และเข็มที่ 2 และเข็มกระตุ้นห่างจากเข็ม 2 อย่างน้อย 8 สัปดาห์ โดยให้เข้ารับวัคซีนโควิด-19 ไฟเซอร์ (ฝาสีแดง) จนครบ 3 เข็ม

โดยจากการศึกษาภูมิคุ้มกันพบว่า ฉีด 2 เข็มภูมิคุ้มกันไม่สูงมากนัก จึงแนะนำว่าต้องฉีดครบ 3 เข็ม ซึ่งจะทำให้ภูมิคุ้มกันเพิ่มขึ้น ซึ่งจากการติดตามกลุ่มตัวอย่างพบว่า การรับวัคซีนโควิด-19 ไฟเซอร์ (ฝาสีแดง) ครบ 3 เข็ม อย่างน้อย 7 วัน พบประสิทธิผล ลดการติดเชื้อได้ประมาณ 75-80% ซึ่งประสิทธิผลการป้องกันการติดเชื้อลดลงเร็วมาก แต่สามารถป้องกันอาการรุนแรงและลดการเสียชีวิต

คุณอาจสนใจข่าวนี้

error: เนื้อหา และภาพข่าวมีลิขสิทธิ์ห้ามนำไปเผยแพร่โดยไม่ได้รับอนุญาติ