เตือนภัยระวัง คนร้ายขี่รถจยย.ประกบสาววัย 49 ปี ดึงกุญแจรถออกกระชากกระเป๋า
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อกลางดึกที่ผ่านมา ร.ต.อ วิรุฬห์กิจ ตันตระกูล รอง สว. สอบสวน สภ.พระนครศรีอยุธยา จ.พระนครศรีอยุธยา ได้รับแจ้งเหตุมีคนร้าย ขี่รถจักรยานยนต์จะพยายามก่อเหตุกระชากกระเป๋าหญิงสาวขณะขี่รถจักรยานยนต์ บนถนนโรจนะขาเข้าตัวเมือง บริเวณ ตรงข้ามศาลจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ต.ประตูชัย อ.พระนครศรีอยุธยา จ.พระนครศรีอยุธยา ไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ พร้อมเจ้าหน้าที่ตำรวจสายตรวจ
ในที่เกิดเหตุ พบนาง อรพินท์ อายุ 49 ปีชาว จ.พระนครศรีอยุธยา อยู่ในอาการตกใจยืนรอ เจ้าหน้าที่ตำรวจ อยู่ข้างรถจยย.ฮอนด้า รุ่น เวฟ 110 i สีเลือดหมู หมายเลขทะเบียน 1 กภ 3604 พระนครศรีอยุธยาหลังจากก่อนหน้าถูกคนร้าย ขี่รถจักรยานยนต์ เข้ามาประกบข้างแล้วก่อเหตุกระชากกระเป๋าแต่ไม่ได้ทรัพย์สินอะไรไป
สอบถาม นาง อรพินท์ ผู้เสียหาย ทราบว่าตนเองมีอาชีพเป็นหมอนวด แผนโบราณ รับจ้างนวดตามบ้านเรือน กลับจากการนวดให้ลูกค้า กำลังขี่รถจักรยานยนต์มาตามถนนโรจนะขาเข้า มุ่งหน้ากลับบ้านพักบริเวณชุมชนริมวัง กระทั้งมาถึงบริเวณแยกไฟแดงโรงเรียนจิรศาสตร์ ได้สังเกตเห็น มีรถจักรยานยนต์แบบหญิง รุ่นเก่ามีคนขับเป็นชายอายุประมาณ 30 ปี มีหนวด สวมเสื้อแขนยาว ขับรถติดตามมา พอตนเองขับขี่รถจักรยานยนต์มาถึงตรงข้ามศาลจังหวัดพระนครศรีอยุธยา คนร้ายได้เร่งเครื่องมาประกบ ด้านข้างขวาแล้วยื่นมือมาจับกุญแจดับเครื่องแล้วดึงกุญแจกออก คนร้ายก็พูดว่าเอากระเป๋ามาจากนั้นก็ยื่นมือมา กระชากกระเป๋าสะพายที่คาดขวางลำตัวอยู่ ตั้งสติ รู้ตัวว่าจะเกิดอันตรายแน่ จึงได้ทิ้งรถวิ่งหนี คนร้าย จึงขี่รถจักรยานยนต์หลบหนีไป ตนเองจึงได้ขอความช่วยเหลือชาวบ้านที่ขับรถผ่านมาพอดีให้ช่วยแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจ
ส่วนคนร้าย ตนสังเกตเห็นว่าขี่รถตามมาตั้งแต่ วงเวียน เจดีย์วัดสามปลื้ม แล้วก็ขับแซงไปก่อนจะมาจอดคอยอีกทีก็ตรงสี่แยก สัญญาณไฟจราจร โรงเรียนจิรศาสตร์ ก่อนที่จะมาก่อเหตุ ตอนแรกก็คิดว่าเพื่อนขี่รถจักรยานยนต์มาประกบเพื่อแกล้งแต่ไม่ใช่ ซึ่ง เหตุการณ์ดังกล่าวตกใจมาก ไม่เคยคิดว่าจะเกิดขึ้นเคยดูแต่ในข่าวโชคดีที่คนร้ายไม่ได้ทรัพย์สินไปไม่ได้รับบาดเจ็บอะไรตอนนี้ก็คงจะต้องระมัดระวังตัวให้มากขึ้นคงจะไม่กล้าขี่รถไปไหนเพียงลำพังคนเดียว จึงอยากฝากเจ้าหน้าที่ตำรวจให้ช่วยติดตามจับกุมตัวคนร้ายมาดำเนินคดีให้ได้โดยเร็วเพื่อที่จะไม่ได้ไปก่อเหตุกับคนอื่นอีก
ซึ่งทางพนักงานสอบสวนจะประสานเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนลงพื้นที่ตรวจสอบกล้องวงจรปิดตามเส้นทาง ที่คนร้ายหลบหนี เพื่อติดตามตัวคนร้ายมาดำเนินคดีต่อไป
