ตำรวจตามจับยกแก๊ง 3 ผู้ต้องหาวางแผนแยบยลก่อเหตุ ชิงทอง กลางห้าง
จากกรณีคนร้ายเป็นชาย สวมหมวกกันน็อก บุกเดี่ยวเข้าไปภายในห้างสรรพสินค้าโลตัส สาขาเสนา จ.พระนครศรีอยุธยา ใช้อาวุธปืนยิงตู้โชว์กวาดทองรูปพรรณหนัก 95 บาท มูลค่ากว่า 2.8 ล้านหลบหนี ก่อนวางระเบิดปลอมข่มขู่หวังถ่วงเวลาเจ้าหน้าที่ เหตุเกิดเมื่อวันที่ 4 พ.ย.ที่ผ่านมา ต่อมาวันที่ 9 พ.ย. พบรถจยย.ยามาฮ่าฟีโน่ สีขาวดำ เบาะสีน้ำตาล ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน ลักษณะคล้ายกับรถจยย.ที่คนร้ายใช้ก่อเหตุ ถูกทิ้งไว้ในพงหญ้า ริมถนนวัดบางปลาหมอ-หัวเวียง ม.6 ต.น้ำเต้า อ.บางบาล จ.พระนครศรีอยุธยา ตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น
ความคืบหน้าล่าสุด เมื่อช่วงเย็น วันที่ 11 พ.ย.65 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนตำรวจภูธรภาค 1, ชุดสืบสวน ภ.จว.พระนครศรีอยุธยา, ชุดสืบสวน สภ.เสนา ได้จับกุมตัวนาย ศักดา หรือหนึ่ง นาย นรากร หรือบูม เป็นชาว อ.เสนา จ.พระนครศรีอยุธยา ผู้ต้องหา ที่ร่วมกันในการวางแผนก่อเหตุชิงทอง ได้ที่ปั๊มน้ำมันแห่งหนึ่ง
จากนั้นเมื่อเวลาประมาณ 23.30 น.เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนตำรวจภูธรภาค 1 ชุดสืบสวน สภ.เสนา นำกำลังเข้าปิดล้อม ร้านอาหารแห่งหนึ่ง ใน ต.รางจรเข้ อ.เสนา จ.พระนครศรีอยุธยา เพื่อจับกุม ตัวนาย กฤษรัชญ์ หรือ กลอฟ ผู้ต้องหาอีก 1 รายที่ถูกออกหมายจับ ทันทีที่เห็นกำลัง เจ้าหน้าที่ตำรวจ ผู้ต้องหาได้ลื่นล้มจนได้รับบาดเจ็บที่ขา ได้มีการเจรจาให้ออกมามอบตัว พร้อมกับให้เจ้าหน้าที่กู้ภัยเข้าไปทำแผลเบื้องต้น จากนั้น ทางญาติ ได้พาตัวผู้ต้องหาออกมามอบตัวกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ ได้นำตัวขึ้นรถไปสอบสวนทันที เพื่อขยายผลติดตามทองที่ก่อเหตุชิงไป
ผู้สื่อข่าวรายงานว่าในการจับกุมตัวกลุ่มผู้ต้องหา ชุดสืบสวนพบรถกระบะ ต้องสงสัยคันหนึ่งขับผ่านบริเวณ จุดที่คนร้ายที่ก่อเหตุนำรถจักรยานยนต์มาจอดทิ้งไว้ในพงหญ้า จากนั้นก็แกะรอยรถกระบะคันดังกล่าว จนทราบกลุ่มผู้ต้องสงสัย เฝ้าดูพฤติกรรม จนกระทั่งพบผู้ต้องสงสัยนำทองรูปพรรณไปขายที่ร้านทอง ที่ จ.ปทุมธานี จึงรวบรวมข้อมูลพยานหลักฐาน ขอศาลจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ออกมายจับ ผู้ต้องหา 3 คน นำไปสู่การจับกุม ผู้ต้องหาที่วางแผน คนก่อเหตุ และคนที่พาหลบหนี
โดย มีนายหนึ่ง เป็นคนวางแผน นาย บูม เป็นคน เข้าไปก่อเหตุชิงทอง และนาย กลอฟ เป็นคนขับรถยนต์กระบะ ไปรับ นายบูม ที่บริเวณจุดที่พบรถจยย.ถูกนำไปทิ้ง ห่างจากร้านทองประมาณ 4 กิโลเมตร แล้วหลบหนีไปซ่อนตัว