เร่งสืบสวนขยายผล ติดตามพฤติกรรมบุคคลต้องสงสัย คนร้ายชิงทอง
จากกรณีคนร้ายเป็นชาย สวมหมวกกันน็อก บุกเดี่ยว เข้าไปภายในห้างสรรพสินค้า โลตัส สาขาเสนา จ.พระนครศรีอยุธยา ใช้อาวุธปืนยิงตู้โชว์กวาดทองรูปพรรณหนัก 80 บาท ค่ากว่า 2.4 ล้านหลบหนี ก่อนหลบหนีวางระเบิดปลอมข่มขู่ หวังถ่วงเวลาเจ้าหน้าที่ เหตุเกิดเมื่อวันที่ 4 พ.ย. ที่ผ่านมา ตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น
ความคืบหน้าล่าสุด วันที่ 5 พฤศจิกายน พ.ต.อ ธีทัต สีดารักษ์ ผกก.สภ.เสนา จ.พระนครศรีอยุธยา เปิดเผยว่า ผู้บังคับบัญชากำชับ ติดตามความคืบหน้าของคดี โดยตลอดพร้อมทั้งได้มอบ แนวทางการสืบสวน มีเจ้าหน้าทีตำรวจ ชุดสืบสวน ภาค 1 สืบสวน จังหวัดพระนครศรีอยุธยา และชุดสืบสวนของ สภ.เสนา แบ่งหน้าที่กันตรวจสอบหาข้อมูลเพื่อติดตามคนร้าย
ที่ร้านทอง ภายในห้อง ที่เกิดเหตุ ในวันนี้พนักงานมาเปิดร้านให้บริการ ลูกค้าตามปกติ โดยยังมีเจ้าหน้าที่ตำรวจ ชุดสืบสวน ภาค 1 มาสอบสวน และหาข้อมูลเพิ่มเติมกับทางพนักงาน
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน ได้สอบสวนพยาน และตรวจลายนิ้วมือแฝง ตรวจเก็บดีเอ็นเอ ที่วัตถุพยานอย่างละเอียด พร้อมกับตรวจหาประวัติคนร้ายที่เคยก่อเหตุในลักษณะเดียวกัน รวมถึงตรวจสอบข้อมูล ของกลุ่มผู้ต้องขังที่พ้นโทษออกมาจากเรือนจำ เพื่อนำดีเอ็นเอของกลุ่มบุคคลเหล่านี้มาตรวจสอบเปรียบเทียบ และเฝ้าติดตามพฤติกรรมของบุคคลต้องสงสัย
จากการตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิด พบพฤติกรรมของคนร้าย ขี่ รถจยย.เข้ามาจอดใกล้กับประตูเข้าออกของห้าง โดย สวมหมวกกันน็อคสีดำสภาพใหม่ ลักษณะเป็นหมวกกันน็อคที่แถมมากับรถจยย. สวมเสื้อแจ็คเก็ต สีดำ ด้านหลังมีภาษาอังกฤษ เป็นชื่อบริษัทขนส่งสินค้าต่างประเทศ กางเกงขายาวสีน้ำตาล แบบเดินป่า รองเท้าผ้าใบเล่นกีฬาสีดำขอบพื้นสีขาว จากนั้นคนร้ายเดินเข้ามา โดยถืออาวุธปืนส่ายไปมาข่มขู่คนภายในห้าง แล้วตรงเข้ามาที่ร้านทอง ก่อนใช้อาวุธปืนยิงไปที่ตู้กระจก โดยพบอาวุธปืนที่คนร้าย ใช้ เป็นปืนแบบไทยประดิษฐ์ คนร้ายปีนขึ้นไปที่ตู้กระจก ทุบตู้กระจกอีกครั้ง แล้วหยิบทองรูปพรรณออกจากตู้ใส่กระเป๋าสะพายสีขาวใบใหญ่ และหลบหนีไป เมื่อถึงประตูทางออกได้วางระเบิดปลอมทิ้งเอาไว้ ก่อนที่จะขี่จักรยานยนต์หลบหนีไป
ชุดสืบสวน ได้มีการนำตำหนิรูปพรรรณ ของเสื้อผ้า รองเท้า หมวกกันน้อค ไปขยายผลถึงแหล่งที่มา เชื่อว่าคนร้ายน่าจะมีการจัดเตรียมหามาใหม่เพื่อใช้ก่อเหตุ
เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ตรวจสอบหาข้อมูลเส้นทางที่คนร้ายหลบหนี โดยหลังก่อเหตุคนร้ายได้ขี่รถจักรยานยนต์ออกทางด้านหลังของห้างสรรพสินค้า แล้วเลี้ยวขวา มุ่งหน้าไปทางวัดบางปลาหมอสายใน ซึ่งอยู่ระหว่างการสืบสวนขยายผลว่าใช้เส้นทางมุ่งหน้าไปทางไหนต่อ บางช่วงก่อนถึงแยก ไม่มีกล้องวงจรปิด จึงมีความเป็นไปได้ที่คนร้ายจะหลบหนีไปได้หลายเส้นทาง