สูบน้ำท่วมขังชุมชนที่ระบายได้ช้า เร่งสำรวจความเสียหายบ้านเรือน โบราณสถานยังถูกน้ำท่วม
เมื่อวันที่ 29 ตุลาคม ผู้สื่อข่าวรายงานสถานการณ์น้ำท่วมใน จ.พระนครศรีอยุธยา ขณะที่เขื่อนเจ้าพระยา จ.ชัยนาท ลดการระบายน้ำลงสู่พื้นที่ท้ายเขื่อนอย่างต่อเนื่อง เหลือการระบายที่ 2,037ลบ.ม./วินาที ส่งผลให้ หลายพื้นที่ของ จ.พระนครศรีอยุธยา ระดับน้ำเริ่มลดลง บางพื้นที่ระดับน้ำเริ่มทรงตัว ยังคงมีประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากน้ำท่วม
นายนิวัฒน์ รุ่งสาคร ผวจ.พระนครศรีอยุธยา กล่าวว่า การให้ความช่วยเหลือประชาชน ให้ทางอำเภอและองค์การปกครองส่วนท้องถิ่น รวมทั้งหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าไปดูแลพี่น้องประชาชนอย่างใกล้ชิด เนื่องจากเรื่องนี้ท่านนายกรัฐมนตรี รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย และท่านปลัดกระทรวงมหาดไทย ให้ความสำคัญมาก โดยเฉพาะการช่วยเหลือประชาชนที่ยังประสบปัญหาอยู่ เน้นย้ำให้ดูแลอย่างทั่วถึง ครอบคลุมทุกครัวเรือน อีกส่วนหนึ่งคือเรื่องของการเยียวยา ฟื้นฟู หลังจากสถานการณ์ดีขึ้น
ซึ่งมีการประชุมนายอำเภอ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ว่าไม่ต้องรอให้น้ำลดลงไปหมด ตอนนี้สถานการณ์ตรงไหนที่ดีขึ้นให้เร่งเข้าไปสำรวจและก็เริ่มดำเนินการเยียวยาได้เลย อีกส่วนที่ยังคงต้องแก้ไขในพื้นที่น้ำท่วมที่ยังลงไม่หมดในพื้นที่ลุ่มต่ำหรือเป็นแอ่งกระทะ อันนี้เร่งในเรื่องของการกู้ฟื้นฟูก็ส่วนที่เป็นพื้นที่สามารถ จัดการกู้คืนพื้นที่สูบน้ำออกได้ให้ทำเลย เพราะบางพื้นที่เมื่อน้ำล้นตลิ่งแม่น้ำเขาไปคลองสาขาต่างๆแล้ว ชุมชนเป็นแอ่งกระทะ นำไม่ไหลออกเกิดการท่วมขัง เช่น ในพื้นที่อำเภอพระนครศรีอยุธยา ขณะนี้ได้ร่วมกับทางเทศบาลนครพระนครศรีอยุธยา ปภ.จังหวัด เร่งสูบน้ำออกจากชุมชน ใน ต.ท่าว่าสุกรี เขต.เทศบาลนครพระนครศรีอยุธยา และ ชุมชน ม.1 -2 ต.คลองสะบัว อ.พระนครศรีอยุธยา ประมาณ 2,500 ครัวเรือน ซึ่งน้ำท่วมขังมาประมาณ 2 เดือน น้ำเริ่มเน่าเสีย
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า โบราณสถานที่อยู่นอกเกาะเมือง ใน ต.คลองสระบัว เช่น โบราณสถานวัดแค ซึ่งถูกน้ำท่วมสูงประมาณ 1 เมตร ระดับน้ำลดลงเหลือประมาณ50 ซม.ท่วมขังพื้นที่และตัวโบราณสถาน น้ำที่ท่วมขังเริ่มเน่า มีคราบดินโคลน เศษขยะอยู่ในพื้นที่ของโบราณสถาน