ตำรวจตามรวบยกแก๊ง ขับเก๋งประกบยิงเจ้าของรีสอร์ต แค้นเรื่องผลประโยชน์ จ้างคนรู้จักสมัยอยู่เรือนจำมายิง
จากกรณีที่คนร้ายขับรถเก๋งฮอนด้าซีวิค สีบรอนซ์ ก่อเหตุใช้อาวุธปืนยิง นายตรีภพ ภูมี อายุ 55 ปี เจ้าของธุรกิจรีสอร์ตและร้านอาหารใน จ.พระนครศรีอยุธยา จนได้รับบาดเจ็บ ขณะขับรถเบนซ์ รุ่น c350E ทะเบียน 1ขค 3737 กรุงเทพมหานคร อยู่บนถนนสายเอเชียขาออก หลักกิโลเมตรที่ 15 ต.บ้านกรด อ.บางปะอิน จ.พระนครศรีอยุธยา หลังกลับจากการเดินทางไปขึ้นศาลจังหวัดธัญบุรี จ.ปทุมธานี ในคดีความขัดแย้งเรื่องธุรกิจกับหุ้นส่วนร้านอาหาร และคดีบุกรุก เหตุเกิดเมื่อวันที่ 16 กันยายนที่ผ่านมา
ความคืบหน้าล่าสุด เมื่อวันที่ 26 กันยายน เจ้าหน้าที่ตำรวจได้สืบสวนขยายผล รวบรวมพยานหลักฐานต่างๆ จนสามารถออกหมายจับผู้ต้องหาที่ก่อเหตุและผู้จ้างวานได้ รวม 4 คน ประกอบด้วย นายดนัย อ๋องย่อง อายุ 50 ปี ผู้จ้างวาน นายเทียนชัย รัตนอำพร อายุ 28 ปี คนขับรถเก๋งพามือปืนไปก่อเหตุ นายเอกพล หรือตี่ ฤทธิกุล อายุ 32 ปี มือปืน และ น.ส.ทิพวรรณ์ หรือบี มานก อายุ 31 ปี ภรรยาของนายเอกพล คนขับรถไปก่อเหตุ
ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน ภ.จว.พระนครศรีอยุธยา ร่วมกับชุดสืบสวนตำรวจภูธรภาค 8 ชุดสืบสวน ภ.จว.ชุมพร ติดตามจับกุมผู้ต้องหาทั้ง 4 คน หลังจากหลบหนีไปอยู่ใน จ.ชุมพร พร้อมตรวจยึดปืน ขนาด 9 มม.ที่ใช้ก่อเหตุ และรถเก๋งฮอนด้าซีวิค สีบรอนซ์ ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน ที่ผู้ต้องหาใช้สีสเปรย์สีดำพ่นทับ
ที่กองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดพระนครศรีอยุธยา พล.ต.ท.จิรพัฒน์ ภูมิจิตร ผบช.ภ.1 พล.ต.ต.พีระพงศ์ วงษ์สมาน รอง ผบช.ภ.1 พล.ต.ต.พัลลภ แอร่มหล้า ผบก.ภ.จว.พระนครศรีอยุธยา ร่วมกันสอบสวนผู้ต้องหาทั้ง 4 คน ใช้เวลาประมาณ 30 นาที จากนั้นได้ออกมาแถลงข่าว
พล.ต.ท.จิรพัฒน์กล่าวว่า ผู้ต้องหาที่ร่วมกันก่อเหตุใช้อาวุธปืนยิงผู้เสียหายกลางถนนสายเอเชียเป็นการก่อเหตุที่อุกอาจมาก ไม่เกรงกลัวกฎหมาย ภายหลังการก่อเหตุเจ้าหน้าที่ตำรวจได้สอบสวนสืบสวนจนทราบว่ากลุ่มผู้ก่อเหตุและผู้จ้างวานมีการติดตามผู้เสียหายจากศาลจังหวัดธัญบุรี จ.ปทุมธานี จนมาก่อเหตุที่ จ.พระนครศรีอยุธยา หลังก่อเหตุกลุ่มผู้ต้องหาพากันหลบหนีไปซ่อนตัวที่ จ.ชุมพร จึงติดตามไปจับกุมตัวได้ทั้งหมด
พล.ต.ต.พีระพงศ์กล่าวว่า มูลเหตุจูงใจในการก่อเหตุเกิดจาก นายดนัย ซึ่งเป็นหุ้นส่วนของผู้เสียหายเกิดความไม่พอใจที่ถูกผู้เสียหายฟ้องร้องดำเนินคดีกับตนเกี่ยวกับเรื่องผลประโยชน์ในร้านอาหาร จึงให้ นายเอกพล ซึ่งเคยรู้จักกันในเรือนจำเมื่อครั้งต้องโทษด้วยกันมาลงมือก่อเหตุ โดยชักชวนให้นายเอกพลใช้อาวุธปืนยิงผู้เสียหายโดยประสงค์ถึงชีวิต
พล.ต.ต.พีระพงศ์กล่าวว่า นายเอกพล ให้การรับสารภาพ เป็นผู้ใช้อาวุธปืนยิงผู้เสียหายจริง โดยมี นายเทียนชัย เป็นผู้ขับรถยนต์มาก่อเหตุ ส่วน น.ส.ทิพวรรณ์ ภรรยานายเอกพล นั่งอยู่เบาะด้านหลังภายในรถคันที่ใช้ก่อเหตุ ผู้ต้องหาทั้งหมดให้การรับสารภาพ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายตรีภพ ผู้บาดเจ็บ มาพร้อมภรรยา นำดอกไม้มามอบให้ ผบช.ภาค 1 เพื่อขอบคุณเจ้าหน้าที่ตำรวจทุกนายที่มีส่วนเกี่ยวข้องสามารถจับกุมคนร้ายได้
นายตรีภพกล่าวว่า ขอขอบคุณเจ้าหน้าที่ตำรวจทุกนายที่สามารถจับกุมคนร้ายได้รวดเร็ว ส่วนตัวยังมีความกังวลเรื่องความปลอดภัยถึงแม้จะมีการจับกุมคนร้ายได้แล้ว เพราะผู้ต้องหาอาฆาตกับตนมาก มีการข่มขู่มาโดยตลอด
ผบช.ภาค 1 ได้สั่งการให้พนักงานสอบสวนคัดค้านการประกันตัวผู้ต้องหา ทั้งหมด พร้อมจัดกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจดูแลความปลอดภัยผู้เสียหายตลอด 24 ชั่วโมง
จากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ควบคุมผู้ต้องหาไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพที่บริเวณถนนสายเอเชียขาออก บริเวณหลักกิโลเมตรที่ 15 ต.บ้านกรด อ.บางปะอิน จ.พระนครศรีอยุธยา ท่ามกลางสายฝน โดยให้ผู้ต้องหาที่อยู่ในรถร่วมทำแผนทุกขั้นตอน
