รื้อแล้ว “วิมานสะพานลอย” ชาวบ้านบ่นกันอุบ หวั่นเกรงอันตราย
วันที่ 24 สิงหาคม 2565 จากกรณีมีผู้ใช้ ติ๊กต๊อก ชื่อ@jittakorn_pochoo ได้โพสต์ ได้โพสต์ภาพ บนสะพานลอยที่มีการผูกผ้าม่าน ตั้งโต๊ะ ปูนพื้นกระเบื้อง ตั้งวางข้าวของเครื่องใช้ เอาไว้เปรียบเสมือน เป็นมุมหนึ่งของห้องภายในบ้าน โดยมีการระบุว่า เป็นสะพานลอยหน้าวัดคานหาม อ.อุทัย จ.พระนครศรีอยุธยา
มีคนเข้ามาแสดงความคิดเห็นจำนวนมาก มีทั้งชื่นชมและตำหนิ โดยมีคนพูดติดตลกว่า “ถ้านี่เดินไปจะเกรงใจมาก เหมือนเดินเข้าออกบ้านเค้า” และ “เขาคงอยากมีบ้านจริงๆนะคะ ดูจากตั้งใจใส่ม่าน ปูพื้น” ส่วนคนที่ตำหนิเพราะเป็นพื้นที่สาธารณะ ไม่ควรยึดเป็นพื้นที่ส่วนตัว ขณะที่บางส่วนก็เห็นใจ เพราะเขาอากอยากมีบ้าน หรือเราะเขาไม่มีที่อยู่จึงต้องจึงต้องทำแบบนี้ แต่สำหรับเรื่องแบบนี้ไม่ถูกต้อง แต่ล่าสุดทราบว่าได้ถูกรื้อออกไปแล้ว
ผู้สื่อข่าวจึงได้เดินทางไปตรวจสอบ พบว่า เป็นสะพานลอยข้ามถนนโรจนะ ทางหลวงหมายเลข 309 ช่วงหลักกิโลเมตรที่ 15 หน้าทางเข้าชุมชนวัดคานหาม อ.อุทัย จ.พระนครศรีอยุธยา เป็นชุมชนขนาดใหญ่ มีหอพัก ห้องเช่าจำนวนมาก และอยู่ใกล้กับสวนอุตสาหกรรมโรจนะ จาการตรวจสอบบนสะพานลอย พบผ้าม่าน ผูกบังแดดไว้รอบด้าน อย่างสวยงาม ที่พื้นสะพานลอยใช้แผ่นกระเบื้องยางปูเป็นพื้น มีโต๊ะตั้งวางเอาไว้อย่างเป็นระเบียบ พร้อมกับเศษขยะข้าวของเครื่องใช้ แต่ไม่พบผู้พักอาศัยแต่อย่างใด
ต่อมาเจ้าหน้าที่ของแขวงทางหลวงอยุธยา กว่า 10 คน จึงได้ทำการรื้อถอนสิ่งของดังกล่าวออก พร้อมทั้งเก็บขยะทั้งหมดทันที พร้อมทั้งทำความสะอาดทางขึ้นทางลงของสะพาน บริเวณโดยรอบ จนสะอาด
เกี่ยวกับเรื่องนี้ นายธวัช ช่างทำ ตำแหน่งพนักงานชั่วคราว แขวงทางหลวงอยุธยา กล่าวว่า ตามปกติแล้ว ทางแขวงทางหลวงอยุธยา จะต้องมาทำความสะอาด บนสะพานลอย ข้ามถนนโรจนะ อาทิตย์ละครั้ง ซึ่งมีอยู่ทั้งสิ้น 14 สะพานลอย ตลอดเส้นทาง 20 กิโลเมตร โดยมักจะพบกลุ่มคนเรร่อน คนขอทาน เข้ามาพักอาศัย โดยเฉพาะสะพานลอยหน้าชุมชนวัดคานหาม ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่จะต้องคอยมาบอก และขอความร่วมมือให้กลุ่มคนเหล่านี้ ไปอยู่ที่อื่น เพราะสร้างเดือดร้อนรำคาญให้กับประชาชนที่สัญจรผ่านไปมา หรือข้ามสะพานลอย ส่วนที่มีการมาตั้งวางของจัดสถานที่เหมือนเป็นบ้าน ตามที่เห็น เป็นช่วงที่ทางแขวงทางหลวงอยุธยา กำลังเร่งไปทำงานบริเวณถนนสายเอเชีย จึงทำให้ไม่ได้เข้ามาตรวจสอบ หรือทำความสะอาด ประมาณ 1 อาทิตย์ ทำให้มีคนเข้มมาพักอาศัยอย่างที่เห็น
ทางด้าน นางสาวจตุพร บุญรอด อายุ 41 ปี พนักงานโรงงานแห่งหนึ่ง กล่าวว่า ทุกวันหลังจากเลิกงาน จะต้องใช้สะพานลอยเดินข้าม เพื่อกลับที่พัก และมักจะพบเห็นว่า มีการมาตั้งวางของตกแต่งจนเป็นเหมือนบ้าน กีดขวางทางเดิน เพราะเป็นช่วงทางเดินเลี้ยวขึ้นสะพานลอย ถ้าขึ้นมาคนเดียว เกรงว่าจะเกิดอันตราย
ขณะที่ นางสาว ฐริกา อายุ 40 ปี (ใส่หมวกขาว)แม่ค้าขายอาหารตามสั่ง ใกล้กับสะพานลอย กล่าวว่า คนเร่รอนหลายกลุ่ม จะวยเวียนไปๆ มาๆ แบบเป้นประจำ ซึ่งเจอบ่อยมาก บางครั้งคนใหม่มา คนเก่ามา ผลัดกันไปมา แต่ชายคนที่มาอาศัยอยู่บนสะพานลอยเหมือนเป็นบ้าน หลายคนมาบอกว่า น่ากลัว เพราะเป็นชายรูปร่างใหญ่ มีรอยสัก มีจักรยาน 1 คัน จะไปๆ มาๆ แต่คาดว่าพอคนเงียบๆ ก็มาอีก เพราะไปมาหลายครั้ง นอกจากนี้ยังมีคนเร่ร่อน หรือขอทานรายอื่นๆ จะมาอาศัยนั่งขอทานอยู่บนสะพานลอยด้วย
แม่ค้า หรือร้านค้า ที่อยู่บริเวณทางขึ้นสะพาน ต่างให้ข้อมูลว่า พนักงานโรงงาน หรือชาวบ้านที่ต้องข้ามสะพานลอย เป็นประจำ มักพบเห็นคนเร่ร่อน หรือขอทาน เข้ามานั่งขอทานบนสะพานลอยอยู่เป็นประจำ บางครั้งเจ้าหน้าที่ต้องมาไล่ออกไป เพราะเกรงว่าจะเกิดอันตรายกับชาวบ้าน และเจ้าหน้าที่ก็จะทำความสะอาดพื้นที่โดยรอบ จากนั้นไม่นานนักกลุ่มคนเหล่านี้ก็กลับเข้ามาอีก ส่วนชายที่ทำวิมานบนสะพานลอย ซึ่งมีรูปร่างสูงใหญ่ หากผู้ที่จะใช้สะพานลอย หรือเป็นพนักงานหญิงสาว ก็จะไม่กล้าเดินขึ้นไปคนเดียว โดยมักต้องรอให้มีคนเดินข้ามไปด้วยกันเป็นกลุ่มๆ เพราะหวั่นเกรงว่าจะเกิดอันตราย