ผู้ว่าฯ อยุธยา นำวัคซีนโควิดฉีดยายวัย 84 ปี คนสุดท้ายของตำบล ครบ 100%
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 1 มีนาคม นายวีระชัย นาคมาศ ผู้ว่าราชการจังหวัดพระนครศรีอยุธยา นพ.ยุทธนา วรรณโพธิ์กลาง นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัด นายรัฐพล ธุระพันธ์ นายอำเภอผักไห่ เจ้าหน้าที่สาธารณสุขอำเภอผักไห่ กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน อสม. ในพื้นที่ ต.ลำตะเคียน ฉีดวัคซีนให้กับคุณยายละออง อ่อนจำรัส วัย 84 ปี ที่บ้านเลขที่ 53/1 หมู่ 3 ต.ลำตะเคียน อ.ผักไห่ จ.พระนครศรีอยุธยา เป็นคนสุดท้ายของ ต.ลำตะเคียน ได้ครบ 100% ในวันนี้
โดยนายวีระชัยกล่าวว่า วันนี้มาแสดงความยินดีกับตำบลลำตะเคียน ที่ฉีดวัคซีนได้ครบ 100% โดยรายสุดท้ายที่รับการฉีดวัคซีน อายุ 84 ปี สาเหตุที่ยอมฉีดวัคซีนในวันนี้ เพราะว่าอายุมากแล้ว และไม่ได้ออกไปไหน เลยให้ลูกหลานฉีดวัคซีนกันไปก่อน
ด้วยช่วงก่อนหน้านี้ วัคซีนมีจำนวนไม่เพียงพอต่อจำนวนของประชากร และอีกหนึ่งเหตุผลคือ เพื่อความรับผิดชอบร่วมกันในการสร้างภูมิคุ้มกันหมู่ รวมถึงก่อนหน้าได้ฝากท่านกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน นายกตำบลลำตะเคียน เร่งรณรงค์การฉีดวัคซีนเข็มที่ 3 ซึ่งฉีดไปได้แล้ว 40% เนื่องจากปัจจุบันจำเป็นอย่างยิ่งต่อการสร้างภูมิคุ้มกันโควิดสายพันธุ์ใหม่ รวมทั้งต้องขอบคุณคุณยายอีกครั้ง ที่ร่วมรับผิดชอบต่อประเทศชาติด้วยกัน และเป็นตัวอย่างที่ดีของจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ที่จะทำการเร่งฉีดวัคซีนทุกตำบลให้ครบ 100% ซึ่งตำบลตะเคียนเป็นตำบลที่ 2 ที่ครบ 100% ต่อจากตำบลบ้านรุน ในส่วนของอำเภอผักไห่ เหลืออีก 2-3 ตำบล และขอฝากโดยเฉพาะกลุ่ม 608 เร่งฉีดเข็ม 3 ให้ได้ครบ 100% เช่นกัน
ด้าน คุณยายละออง เปิดเผยว่า ก่อนหน้านี้ยายคิดว่าอายุมากแล้ว และไม่ได้ออกไปไหน จึงให้ลูกหลานฉีดไปก่อน แต่หลานชายซึ่งเป็นผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน ได้มาชักชวนให้มาฉีดวัคซีน ด้วยความเป็นห่วงที่จะนำพาโรคไปติดยาย เลยตกลงฉีดในวันนี้ ไม่เจ็บเลย และไม่มีอาการข้างเคียงแต่อย่างใด และขอเชิญชวนคนเฒ่าคนแก่ไม่ต้องกลัวนะ เพราะยายก็ฉีดแล้ว
สำหรับตำบลลำตะเคียน เป็นตำบลเป้าหมายในการรณรงค์ฉีดวัคซีนป้องกันโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 กลุ่มเป้าหมายให้ครบ 100% โดยมีประชากรเป้าหมาย จำนวน 985 คน ซึ่งวันนี้คุณยายได้รับวัคซีนแล้ว ทำให้เป็นตำบลครบ 100% และจะใช้เป็นต้นแบบในการรณรงค์ฉีดวัคซีนในพื้นที่อื่นๆ ของอำเภอผักไห่ต่อไป
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับสถานการณ์การแพร่บาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ในจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ล่าสุด พบว่ามีผู้ติดเชื้อ รายใหม่จำนวน 358 ราย รักษาตัวหาย 257 ราย ยังคงรักษาตัวอยู่ 3,097 ราย
