สิ้นเกจิดังอยุธยา หลวงพ่ออุดมวัดพิชัยสงคราม สิริอายุรวม 85 ปี 66 พรรษา
วันที่ 9 มกราคม ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พระครูวิชัยกิจจารักษ์ หรือหลวงพ่ออุดม อุตฺตมปญฺโญ อายุ 85 ปี อดีตเจ้าอาวาสวัดพิชัยสงคราม อ.พระนครศรีอยุธยา จ.พระนครศรีอยุธยา ได้มรณภาพด้วยอาการอันสงบ ภายในกุฏิ
พระปลัดตรีพรหม รักษาการเจ้าอาวาสวัดพิชัยสงคราม เปิดเผยว่า หลวงพ่ออุดม เริ่มมีอาการอาพาธหนัก เข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาล มาตั้งแต่ปี 2563 อาพาธด้วยโรค ความดัน หัวใจ ปอด โรคไต เข้ารับการรักษาอาการอาพาธที่โรงพยาบาลหลายครั้ง จนล่าสุดได้กลับมารักษาตัวที่วัด ตามดำริของ หลวงพ่ออุดม จนเมื่อช่วงเช้า เวลา 06.30 น.พยาบาลที่เฝ้าดูแลอาการอาพาธของหลวงพ่ออุดมมาแจ้งว่า หลวงพ่ออุดมมรณภาพแล้วด้วยอาการสงบ
สิ่งที่ท่านสอบถาม และเป็นห่วง เรื่องของการซ่อมแซม กุฏิสงฆ์ว่าจะเสร็จเมื่อไร ได้บอกกับหลวงพ่อว่าไม่ต้องห่วง จะเสร็จประมาณเดือนมีนาคม เมษายน ส่วนการประกอบพิธีสรงน้ำสรีระสังขาร ของหลวงพ่ออุดม และการจัดการพิธี ทางคณะสงฆ์จังหวัดพระนครศรีอยุธยา คณะกรรมการวัด กำหนดการสรงน้ำสรีระสังขารวันที่จันทร์ที่ 10 มกราคม 2564 เวลา 13.00น.-16.30 น. ศิษยานุศิษย์ สรงน้ำสรีระสังขาร เวลา17.00 น.พิธีพระราชทานน้ำหลวงสรง
สำหรับ ประวัติของ หลวงพ่ออุดม มีนามเดิมว่า “อุดม ลัดดา” เกิดเมื่อวันพฤหัสบดีที่ 7 สิงหาคม 2479 ปีชวด ชาว ต.ไผ่ลิง อ.พระนครศรีอยุธยา จ.พระนครศรีอยุธยา สมัยเด็ก เจ็บป่วยบ่อย พ่อแม่ จึงได้บรรพชาเป็นสามเณรกับ หลวงพ่ออั้น วัดพระญาติการาม สามเณรอุดมได้ศึกษาหาความรู้ ศึกษาเล่าเรียน ตั้งใจบำเพ็ญบุญกุศล ไหว้พระสวดมนต์ นั่งสมาธิ ภาวนาอยู่เป็นนิจ โดยมีโยมตา “ก๋งจาบ สุวรรณ” เป็นอาจารย์สอนท่านแรก อาจารย์จาบ ท่านนี้เป็นครูสอนพระกรรมฐาน ณ วัดประดู่ทรงธรรม ลูกศิษย์ลูกหาของอาจารย์จาบล้วนเป็นพระเกจิอาจารย์ที่มีชื่อเสียง อาทิ หลวงพ่อเทียม วัดกษัตราธิราช, หลวงพ่อแทน วัดธรรมเสน จ.ราชบุรี, หลวงพ่อกี๋ วัดหูช้าง จ.นนทบุรี,หลวงปู่ปลื้ม วัดสวนหงส์ จ.สุพรรณบุรี, และหลวงพ่อยงยุทธ วัดเขาไม้แดง อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี ที่ต่างเดินทางมาศึกษาพระกรรมฐานจากท่าน
จนถึง พ.ศ.2499 สามเณรอุดมได้เข้าอุปสมบทเป็นพระภิกษุ โดยมีพระครูศีลกิตติคุณ (หลวงพ่ออั้น) วัดพระญาติการาม เป็นพระอุปัชฌาย์ พระอธิการทองคำ ปิยกโร วัดพิชัยสงคราม เป็นพระกรรมวาจาจารย์ และ พระอาจารย์เฉลิม เขมทัสสี วัดพระญาติการาม เป็นพระอนุสาวนาจารย์ ได้รับฉายา “อุตฺตมปญฺโญ” แปลว่า “ผู้อุดมไปด้วยสติปัญญา”
หลังจากอุปสมบทแล้ว ท่านได้จำพรรษาที่วัดกล้วย กระมัง อ.พระนครศรีอยุธยา จ.พระนครศรีอยุธยา ครั้นถึงปลายปี พ.ศ.2502 คณะกรรมการวัดพิชัยสงคราม ได้กราบนิมนต์ท่านมาจำพรรษา ที่ วัดพิชัยสงคราม เมื่อวันที่ 9 ธันวาคม 2502 จนได้รับการแต่งตั้งให้เป็นเจ้าอาวาสวัดพิชัยสงคราม
หลวงพ่ออุดม ได้ศึกษาวิชาพุทธาคม สายวัดประดู่ทรงธรรม และสายอยุธยาโบราณอย่างช่ำชอง อาจารย์ของท่านซึ่งเป็นฆราวาสชื่อ “อาจารย์กิ้ด” และ “อาจารย์เทียน” สำนักวัดศรีภวังค์ ท่านได้เรียนวิชาการเขียนยันต์ทำตะกรุด, ทำผงมหาราช, ทำผงอิธะเจ
ท่านได้กล่าวถึงการเขียนยันต์อย่างน่าสนใจว่า “แท้จริงแล้วการเขียนยันต์เขียนตะกรุด คือการฝึกฝนขัดเกลาจิตใจให้เกิดสมาธิ เป็นกุศโลบายของพระคณาจารย์โบราณที่สอนสั่งอย่างชาญฉลาด”
ดังนั้นตะกรุด, เสื้อยันต์, ไม้ครู, ลูกสะกด และพิรอดแขน จึงเป็นวัตถุมงคลยุคแรกของท่าน โดยเฉพาะ “ตะกรุด” ถือเป็นวัตถุมงคลชิ้นเอกที่ได้รับความนิยมมากที่สุด มาจนถึงปัจจุบันมีหลายชนิด เช่น ตะกรุดโทน, ตะกรุด 108 และตะกรุดไม้ไผ่ตัน
นอกจากนี้ยังได้สร้างวัตถุมงคลรุ่นต่างๆอีกหลายรุ่น รวมไปถึง ลูกศิษย์ลูกหา ยังได้จัดสร้างวัตถุมงคลมาถวายให้หลวงพ่ออุดมได้ปลุกเสกเพื่อหาทุนทรัพย์ในการบูรณปฏิสังขรณวัด จนเป็นวัดที่สวยงาม
นอกจากนี้ท่านยังได้ส่งเสริมการศึกษา ให้กับภิกษุสามเณร และประชาชน เป็นครูสอนพระปริยัติธรรมและคุมสอบธรรมศึกษา สร้างโรงเรียนปริยติธรรม มอบทุนการศึกษาให้กับพระภิกษุสามเณร
ต่อมาระยะหลังด้วยวัย 85 ปี เริ่มมีอาการป่วยต้องเข้ารับการถวายการรักษาที่โรงพยาบาลบ่อยๆ เมื่อกลับมารักษาอาการอาพาธที่วัด หลวงพ่ออุดม ยังคงให้ลูกศิษย์พาสำรวจความเรียบร้อยของวัด และมีความแม่ตา กับญาติโยมที่มาขอความแม่ตาทุกท่าน แต่ถึงแม้กายขันธ์ของหลวงพ่อจะเจ็บป่วยอย่างไรก็ตาม ท่านยังคงมุ่งมั่นในการปฏิบัติธรรม รักษาจิตใจ ดำรงเมตตาธรรม