อยุธยา จับมือ อาเจไทย และยูเนสโก ร่วมทำบันทึกข้อตกลงและแถลงข่าวเปิดตัวรณรงค์ “อาเจ ปกป้อง อยุธยา
วันที่ 15 ธันวาคม ที่โบราณสถานวัดพระราม ภายในอุทยานประวัติศาสตร์พระนครศรีอยุธยา นายวีระชัย นาคมาศ ผวจ. พระนครศรีอยุธยา นายฟาเบียน ดานียล มอสเกร่า เวรา ผู้อำนวยการใหญ่ประจำภูมิภาคอาเชียน บริษัท อาเจไทย จำกัด ผู้ผลิตและจัดจำหน่ายแบรนด์น้ำอัดลม อันดับ 4 ของโลกอย่าง “บิ๊กโคล่า” และผู้แทนสำนักงานยูเนสโกประจำประเทศไทย ได้ร่วมลงนามบันทึกข้อตกลง และแถลงข่าวเปิดตัวรณรงค์ส่งเสริมสังคมสร้างความยั่งยืนให้อุทยานประวัติศาสตร์อยุธยา โดยครั้งนี้ได้จับมือสำนักงานยูเนสโกประจำประเทศไทย
โดยได้รับเกียรติจาก นายชิเงรุ อาโอยากิ ผู้อำนวยการสำนักงานกรุงเทพฯ นายเฟอร์นันโด ฮูลิโอ แอนโตนิโอ คิรส แคมโพส เอกอัครราชทูตเปรูประจำประเทศไทย ร่วมเปิดตัวโครงการ “อาเจ ปกป้อง อยุธยา” ในโอกาสร่วมฉลองครบรอบ 3 ทศวรรษที่ยูเนสโกประกาศรับรองให้อุทยานประวัติศาสตร์อยุธยาขึ้นเป็นมรดกโลก
นายฟาเบียนฯ กล่าวในการเปิดงานว่า “ในนามอาเจทั่วโลก เรามีความมุ่งมั่นเป็นอย่างมากที่จะทำกิจกรรมส่งเสริมสังคมภายใต้แนวคิดหลักเพื่อร่วมพัฒนาและสร้างความยั่งยืนให้กับชุมชนและเมืองที่เราไปทำธุรกิจด้วย ไม่ว่าจะเป็นประเทศใด ทั้งนี้โครงการภายใต้แนวคิดนี้ได้เปิดตัวอย่างเป็นทางการครั้งแรกที่ประเทศเปรู โดยอาเจเปรูทำแผนงานร่วมปกป้อง “มาชูปีกชู” ซึ่งเป็นแหล่งอารยะธรรมแห่งแรกในโลกและได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกโดยยูเนสโก รวมถึงอาเจเอกวาดอร์ ก็ได้ออกโครงการร่วมปกป้องเต่าทะเลบนเกาะ “กาลาปากอส” ตามมาในปีนี้เช่นกัน สำหรับประเทศไทย อาเจได้ร่วมศึกษาและวางแผนโดยเลือกอุทยานประวัติศาสตร์พระนครศรีอยุธยาเป็นพื้นที่เป้าหมาย โดยบรรจุเป็นแผนงานประจำจังหวัดเพื่อร่วมเฉลิมฉลองครบรอบ 3 ทศวรรษการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกโดยยูเนสโก”โครงการ “อาเจ ปกป้อง อยุธยา” แบ่งออกเป็น 3 โครงการ ด้วยกัน คือ 1.ปรับปรุงชุมชนพื้นที่อยู่อาศัยเพื่อการอยู่ร่วมกันอย่างราบรื่นของประชาชน และโครงการนำร่องเริ่มต้นที่วัดโคกพระยา โดยการทาสีรั้วบ้าน ผนัง กำแพง และ สังกะสี และหลังคากันสาดด้านที่ติดกับ วัดโคกพระยา และปรับปรุงพื้นที่โดยไม่เคลื่อนย้ายหรือ เพิ่มเติม รื้อถอนสิ่งปลูกสร้าง 2.การถ่ายทำสื่อโฆษณาทางโทรทัศน์ เพื่อเชิญชวนให้ชาวอยุธยาเห็นความสำคัญของการอนุรักษ์มรดกโลก 3.การจัดนิทรรศการแสงเข้าร่วมจัดแสดงในงาน ยอยศยิ่งฟ้าอยุธยามรดกโลก ระหว่างวันที่ 17-26 ธันวาคม 2564
ทั้งนี้โครงการ “อาเจ ปกป้อง อยุธยา” ยังได้รับการสนับสนุนอย่างดีจากผู้ว่าราชการจังหวัดอยุธยา ที่เล็งเห็นโอกาศการยกระดับการเฉลิมฉลองครบรอบ 3 ทศวรรษ ที่อุทยานประวัติศาสตร์ขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกจากโครงงานดังกล่าว “ปีนี้นับว่าเป็นความยิ่งใหญ่ของจังหวัดในโอกาสพิเศษนี้
ทางจังหวัดเล็งเห็นเป้าหมายของโครงการที่สอดคล้องกับวัตถุประสงค์การสร้างความยั่งยืนให้กับอุทยานประวัติศาสตร์ รวมถึงส่งเสริมการท่องเที่ยวโดยเฉพาะอย่างยิ่งในงาน “ยอยศยิ่งฟ้า อยุธยามรดกโลก” ที่จัดขึ้นเป็นประจำทุกปี โดยปีนี้จะจัดระหว่างวันที่ 17-26 ธันวาคม ภายในบริเวณโดยรอบ
อุทยานประวัติศาสตร์ และที่สำคัญปีนี้ใด้รับการสนับสนุนจากอาเจ บิ๊กโคล่า ร่วมทำโครงการส่งเสริมความยั่งยืนซึ่งทุกแผนงานล้วนแล้วแต่สร้างประสบการณ์ใหม่ๆ และสร้างความภาคภูมิใจให้กลับมาสู่ชาวพระนครศรีอยุธยาอีกครั้งอย่างยิ่งใหญ่ จึงนับว่าเป็นเกียรติอย่างมาก”อนึ่งในส่วนของสำนักงานยูเนสโกประจำประเทศไทยนั้นก็ได้เล็งเห็นความสำคัญและความยิ่งใหญ่ของโครงการ “อาเจ ปกป้อง อยุธยา” โดยนายชิเงรุ อาโอยากิ ผู้อำนวยการสำนักงานกรุงเทพฯ ได้ส่งสารแสดงความยินดีมาร่วมเปิดโครงการโดยมีใจความสำคัญว่า “อย่างที่ทุกท่านทราบ ปีนี้นับเป็นปีที่ 30 ที่เมืองประวัติศาสตร์อยุธยาได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกโดยองค์การยูเนสโก เหตุผลหลักที่ทำให้เมืองประวัติศาสตร์แห่งนี้โด่งดังไปทั่วโลกคือภูมิทัศน์ที่กว้างใหญ่ของวัดและซากปรักหักพังของปรางค์ โครงสร้างที่เหลืออยู่ของระบบคลองอัจฉริยะและภาพจิตรกรรมฝาผนัง ซึ่งทั้งหมดนี้เป็น “พยานอันยอดเยี่ยมถึงช่วงเวลาของการพัฒนาศิลปะไทยของชาติอย่างแท้จริง” สิ่งเหล่านี้ถือเป็นคุณค่าสากลอันโดดเด่นของอยุธยาและเป็นสิ่งที่จำเป็นต้องอนุรักษ์ไว้โดยคำนึงถึงเวลา สภาพภูมิอากาศ และการกระทำของมนุษย์กว่า 30 ปีแล้วที่เจ้าหน้าที่ในอยุธยาทั้งเทศบาลและกรมศิลปากรได้เรียนรู้ความท้าทายต่างๆ ทำงานร่วมกัน และล่าสุดได้จัดทำแผนแม่บทเพื่อการจัดการและอนุรักษ์ ไม่เพียงแต่เมืองประวัติศาสตร์อยุธยาเท่านั้น แต่ยังรวมถึงเขตเกาะประวัติศาสตร์ทั้งหมดอีกด้วย เพื่อให้เป็นไปตามแผนแม่บทนี้ เราต้องการความร่วมมือระหว่างองค์กรต่างๆ และประชาชนทั่วไป ทั้งผู้อยู่อาศัยและผู้มาเยือน สำหรับยูเนสโก เราต้องการเห็นการดำเนินการตามแผนแม่บทนี้อย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งไม่สามารถเป็นจริงได้หากปราศจากการมีส่วนร่วมอย่างแข็งขันของชาวบ้านในการแสดงความต้องการตลอดจนความเต็มใจที่จะมีส่วนสนับสนุนการอนุรักษ์อยุธยาให้ลูกหลานรุ่นหลังต่อไป เราอยากให้ผู้มีส่วนได้ส่วนเสียในจังหวัดนี้ทำงานร่วมกันเป็นหนึ่งเดียวข้าพเจ้าขอแสดงความขอบคุณอีกครั้งที่ อาเจ, สถานเอกอัครราชทูตเปรูประจำประเทศไทย ผู้ว่าราชการจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ที่ก้าวขึ้นมาปลุกจิตสำนึกสาธารณะและมีส่วนร่วมกับชุมชนในท้องถิ่นในระดับที่ไม่เคยทำได้มาก่อน ข้าพเจ้าหวังว่าโครงการนี้จะส่งผลดีอย่างมากต่อเมืองประวัติศาสตร์อยุธยาและภูมิทัศน์ที่ใหญ่ขึ้นของจังหวัด
นายเฟอร์นันโด ฮูลิโอ แนโตนิโอ คิรส แคมโพส เอกอัครราชทูตเปรูประจำประเทศไทยเข้าร่วมเป็นประธานโดยได้กล่าวถึงโครงการ “อาเจ ปกป้อง อยุธยา” ไว้ว่า “ในนามของความสัมพันธ์อันดีระหว่างประเทศไทยและเปรู อาเจเป็นบทพิสูจน์ถึงความมุ่งมั่นของบริษัทที่ถือกำเนิดสัญชาติเปรูแต่ขยายกิจการไปยังประเทศต่างๆ ทั่วโลกพร้อมด้วยความมุ่งมั่นที่จะร่วมสร้างสรรค์และพัฒนาความยั่งยืนให้ทุกประเทศที่ไปดำเนินธุรกิจ ผมมีความยินดีอย่างยิ่งที่เห็นโครงการนี้เกิดขึ้นจากความร่วมมือของทั้งอาเจ ยูเนสโกและจังหวัดพระนครศรีอยุธยาและขอแสดงความยินดีกับโอกาสการครบรอบ 3 ทศวรรษของการได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกของอุทยานประวัติศาสตร์แห่งนี้”แผนงานต่างๆ ดังกล่าวในโครงการ “อาเจ ปกป้อง อยุธยา” จะเริ่มเปิดตัวตั้งแต่วันที่ 17 ธันวาคมนี้เป็นต้นไปเริ่มจากนิทรรศการแห่งแสงในงาน “ยอยศยิ่งฟ้า อยุธยามรดกโลก” ตามมาด้วยการปรับปรุงภูมิทัศน์ชุมชนรอบวัดโคกพระยาซึ่งจะแล้วเสร็จภายในเดือนธันวาคมนี้ ตามด้วยการเปิดตัว
โฆษณาโทรทัศน์เพื่อกระตุ้นจิตสำนึกรัก ภูมิใจและหวงแหนอุทยานประวัติศาสตร์พระนครศรีอยุธยาในฐานะมรดกโลกในลำดับถัดไป