สั่งปิดแคมป์คนงานก่อสร้าง 28 วัน ปิดกั้นห้ามเข้าออก ใช้ที่พักเป็นที่ดูแลผู้ติดเชื้อและผู้สัมผัสเสี่ยงสูง
วันที่ 9 มิถุนายน เวลา 11.00 น.นายภานุ แย้มศรี ผวจ.พระนครศรีอยุธยา แถลงถึงแนวนโยบายการควบคุมพื้นที่แคมป์คนงานก่อสร้าง หลังพบคนงานก่อสร้าง 180 คน ที่ก่อสร้างห้างสรรพสินค้า ติดเชื้อโควิด 19 ซึ่งแคปม์คนงานแห่งนี้มีคนงานทั้งสิ้นกว่า 600 คน และได้ดำเนินการตรวจเชิงรุกจำนวน 597 คน โดยผู้ที่ติดเชื้อจำนวน 180คน แบ่งออกเป็นชายไทย 36 คน ต่างด้าว 144 ราย ผลการตรวจไม่แน่ชัดจำนวน 41 ราย และได้ทำการตรวจเชิงรุกพ่อค้าแม่ค้าผู้ค้ารถเร่ จำนวน 34 คน
โดยในที่ประชุมคณะกรรมการควบคุมโรคจังหวัดพระนครศรีอยุธยา กำหนดมาตรการ 4 มาตรการ เพื่อควบคุมการแพร่ระบาดในแคมป์คนงานแห่งนี้ ได้แก่
มาตรการที่ 1 มีคำสั่งปิดแคมป์คนงานแห่งนี้จำนวนทั้งสิ้น 28วัน ตั้งแต่วันที่ 9 มิถุนายน ถึง วันที่ 7 กรกฎาคม 2564 โดยประเมินว่าทุกคนที่อยู่ในแคมป์คนงานแห่งนี้เป็นผู้สัมผัสเสี่ยงสูง
มาตรการที่ 2 กำหนดให้ทางบริษัทฯ จัดตั้งโรงพยาบาลสนามเพื่อที่จะใช้ที่พักเป็นที่ดูแลผู้ติดเชื้อ และผู้สัมผัสเสี่ยงสูง โดยมีเจ้าหน้าที่สาธารณสุขเข้ามาตรวจรักษา และควบคุมความเป็นอยู่ จนกว่าจะหาโรงพยาบาลสนามได้และจะแยกผู้ติดเชื้อออกรักษาตามระบบ
มาตรการที่ 3 คณะกรรมการควบคุมโรคจัดระบบบัญชาการพื้นที่ นำโดยนายบดินทร์ เกษมศาสนติ์ นายอำเภอพระนครศรีอยุธยา เป็นผู้จัดการพื้นที่ การควบคุมโรค นพ.พีระ อารีรัตน์ นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดพระนครศรีอยุธยา
มาตรการที่ 4 การควบคุมพื้นที่ และการควบคุมความปลอดภัย จะเป็นหน้าที่ของตำรวจ สภ.พระนครศรีอยุธยา และ กอ.รมน.จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ทำการ ปิดกั้นห้ามเข้าออกสถานแคมป์คนงาน
โดยจะให้ทางบริษัท สนับสนุนอาหารเครื่องอุปโภคบริโภคจนครบ 28 วัน นอกจากนี้จากการตรวจคัดกรองกลุ่มผู้ค้าหาบเร่ บริเวณดังกล่าวพบว่ามีการติดเชื้อแล้ว ทางพาณิชย์จังหวัดพระนครศรีอยุธยาดำเนินการติดตามรถเร่ทั้งหมดมาเข้าระบบการกักตัว และสั่งปิดตลาดนัดที่อยู่บริเวณโดยรอบ และยังพบว่ามีอีก 10 กว่าบริษัท ที่มาร่วมก่อสร้างห้างสรรพสินค้า โดยได้ดำเนินการตรวจเชิงรุกกว่า 1.500 คน แล้ว อย่างไรก็ตามทางจังหวัดพระนครศรีอยุธยา จะดำเนินทุกมาตรการเพื่อป้องกันและควบคุมการแพร่ระบาดของโรคโควิด 19 ในแคมป์คนงานให้อยู่ในวงจำกัดและไม่แพร่ระบาดในวงกว้าง ขอให้พี่น้องประชาชนชาวจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ร่วมมือร่วมใจปฏิบัติตามมาตรของกรมควบคุมโรคอย่างเคร่งครัด ตามมาตรการ เพื่อป้องกันตนเอง และขอให้ติดตามข้อมูลจากการรายงานของจังหวัด หรือ สำนักงานสาธารณสุขจะได้รับข้อมูลที่ถูกต้อง
