ระดมตรจแรงงานแรงงานต่างด้าว พบทำผิดกฎหมายจับ-ปรับ-เฝ้าระวังป้องกันการแพร่ระบาดของโรคไวรัสโควิด-19
ที่ศูนย์ราชการจังหวัดพระนครศรีอยุธยา วันที่ 19 พฤษภาคม นายภานุ แย้มศรี ผวจ.พระนครศรีอยุธยา นายสมศักดิ์ เจริญไพฑูรย์ รองผวจ.พระนครศรีอยุธยา นายประทีป การมิตรี ปลัดจังหวัด พ.อ.เพิ่มศักดิ์ ขุนโขลน รองผู้อำนวยการ กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักรจังหวัด ร่วมกันปล่อยแถว กำลังเจ้าหน้าที่ชุดตรวจสอบการทำงานของแรงงานต่างด้าวในพื้นที่จังหวัดพระนครศรีอยุธยา โดยมี หัวหน้าส่วนราชการในสังกัดกระทรวงแรงงาน และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมปล่อยแถวเจ้าหน้าที่จาก กอ.รมน.อย สำนักงานสาธารณสุข , ตำรวจตรวจคนเข้าเมือง , สภ.พระนครศรีอยุธยา แรงงานจังหวัด จัดหางานจังหวัด สวัสดิการและคุ้มครองแรงงานจังหวัด ประกันสังคม แรงงานจังหวัด พัฒนาฝีมือแรงงาน 15 ศูนย์ความปลอดภัยในการทำงานเขต1 สห.มทบ.18 ฝ่ายปกครอง อส. และภาคีเครือข่าย ร่วมขบวนรถออกตรวจสอบสถานประกอบการ สถานบริการตามแผน
นายภานุ แย้มศรี ผวจ.พระนครศรีอยุธยา กล่าวว่า จากสถานการณ์การแพร่ระบาดโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ภาพรวมยังมีความรุนแรง และเกิดการแพร่ระบาดไปเป็นวงกว้างหลายพื้นที่ทั่วประเทศ ประกอบกับปัญหาการลักลอบเข้าเมืองอย่างผิดกฎหมายของแรงงานต่างด้าวจากประเทศเพื่อนบ้านที่เพิ่มสูงขึ้น รัฐบาลได้เล็งเห็นถึงความเสี่ยง และนำมาสู่การเตรียมการเฝ้าระวังภายในประเทศ ทั้งนี้ จังหวัดพระนครศรีอยุธยา เป็นจังหวัดที่มีจำนวนแรงงานต่างด้าวอาศัยอยู่จำนวนมาก ทั้งในสถานประกอบการ และที่พักอาศัย ซึ่งอาจยังคงมีความเสี่ยงที่จะก่อให้เกิดการแพร่ระบาดขึ้นได้ ดังนั้น จึงได้จัดการปล่อยแถวบูรณาการเจ้าหน้าที่นำโดย กอ.รมน. หน่วยงานในสังกัดกระทรวงแรงงาน ตม. ตร. นายอำเภอฝ่ายปกครอง ท้องถิ่น อส. และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องร่วมกันออกตรวจตราการทำงาน และการใช้ชีวิตของแรงงานต่างด้าว พร้อมแนะนำให้ความรู้ด้านสุขลักษณะที่ถูกต้อง โดยใช้ภาษาถิ่นที่แรงงานต่างด้าวเข้าใจชัดเจน เป็นการป้องปรามไม่ให้รับเชื้อจากพื้นที่เสี่ยง และไม่ให้พื้นที่อื่นนำเชื้อเข้ามาสู่พื้นที่อยุธยา รวมทั้งเป็นการรณรงค์สื่อสารกระตุ้นการรับรู้ให้นายจ้าง ห้ามจ้างแรงงานต่างด้าวผิดกฎหมาย หากตรวจพบมีความผิดทั้งนายจ้างและคนต่างด้าว มีโทษทั้งจำและปรับ และถูกส่งกลับไปนอกราชอาณาจักร โดยมีแผนการออกตรวจตรา และบังคับใช้อย่างเข้มงวดอย่างต่อเนื่อง เพื่อเป็นการป้องกันควบคุม ลดความเสี่ยง และป้องกันการแพร่ระบาดของโรคไวรัสโคโรนา 2019 ในกลุ่มแรงงานต่างด้าว ดังกล่าว
