ผบช. ภาค 1 ขอโทษสังคม ที่ตำรวจเป็นผู้ก่อเหตุเสียเอง รับผิดชอบเยียวยาครอบครัว
ความคืบหน้าการสอบสวนคดี น.ส.ธัญญ์พิศา หรือน้องน้ำฝน ผู้เสียชีวิตและถูกนำร่างไปเผานั่งยางเพื่อทำลายหลักฐานและอำพรางการหายตัวไป ภายหลังจับกุมตัว ส.ต.อ.ปิยะ นาโควงศ์ผบ.หมู่หน่วยปฏิบัติการพิเศษกก.สส.ภ.จว.พระนครศรีอยุธยา ผู้ต้องหาก่อเหตุฆ่าภรรยาของตัวเอง
วันที่ 14 มีนาคม พล.ต.ท.อำพล บัวรับพร ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 1 พร้อมด้วย พล.ต.ต.นราเดช ทิพย์รักษ์ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ได้เชิญครอบครัวของ น.ส.ธัญญ์พิศา มายัง สภ.พระนครศรีอยุธยา จากนั้นได้นำตัว ส.ต.อ.ปิยะ เข้ามาในห้อง โดยใช้เวลาพูดคุยกันประมาณ 1 ชั่วโมง
พล.ต.ท.อำพล เปิดเผยว่าในฐานะผู้บังคับบัญชาต้องกราบขอโทษญาติและสังคม โดยผู้ต้องหาได้กราบขอโทษต่อครอบครัวของผู้เสียชีวิตแล้ว ตนไม่เคยคิดว่าผู้ใต้บังคับบัญชาจะใช้ความรุนแรงขนาดนี้ เพราะตำรวจต้องมีสติ และเป็นผู้มีความคิด เป็นที่พึ่งของประชาชน เมื่อผู้ใต้บังคับบัญชาทำผิด ก็ไม่เคยคิดปกป้อง หลังทราบเรื่องการหายตัวไปของภรรยาเขา ได้ติดตามมาสอบสวนจนผู้ต้องหายอมรับ และเร่งทำแผนประกอบคำรับสารภาพทันที เพื่อป้องกันการกลับคำรับสารภาพ โดยมีพยานหลักฐาน และภาพจากกล้องวงจรปิด ยืนยันว่าตำรวจทำคดีอย่างตรงไปตรงมา ให้ความยุติธรรมกับครอบครัวของผู้เสียชีวิต
“ส.ต.อ.ปิยะ กับผู้เสียชีวิต คบหากันมา 3 ปี ไม่มีลูกด้วยกัน ส่วนผู้เสียชีวิตมีลูกชายกับสามีเก่า อายุ 5 ขวบ เมื่อรับทราบเรื่องราวแล้วรู้สึกสงสารมาก เพราะผู้ตายเป็นคนขยันค้าขาย เปิดร้านขายยำเล็กๆ ในฐานะผู้บังคับบัญชา ผมและผู้บังคับการ จะรับผิดชอบดูแลเยียวยาครอบครัวของผู้เสียชีวิต จัดการเรื่องการทำศพให้ทั้งหมด พร้อมจะหาทุนการศึกษาให้กับลูกชายของผู้เสียชีวิต และได้กำชับให้ผู้บังคับบัญชาทุกท้องที่เพิ่มความใส่ใจดูแลความเป็นอยู่ปัญหาภายในครอบครัวตำรวจในสังกัด เมื่อพบว่ามีปัญหาจะได้หาทางออกร่วมกัน หรือให้คำแนะนำในการแก้ปัญหา” พล.ต.ท.อำพล กล่าว
ทั้งนี้ ส.ต.อ.ปิยะ ยอมรับว่าสาเหตุเกิดจากความหึงหวง ทำให้มีปากเสียงกันภายในบ้านพัก โดย ส.ต.อ.ปิยะ มีรูปร่างใหญ่ ส่วนผู้เสียชีวิตเป็นผู้หญิงตัวเล็ก เมื่อถูกจับคว่ำหน้ากดกับที่นอนทำให้ขาดอากาศหายใจ เสียชีวิต เมื่อทราบว่าเสียชีวิตแล้ว จึงได้นำศพใส่ถุงทะเลนำขึ้นรถจักรยานยนต์ แล้วมาหลบที่อาคารฝึกสุนัขดมกลิ่น ภ.จว.พระนครศรีอยุธยา รอเวลาจนดึก นำศพขึ้นรถยนต์สายตรวจ ที่ตนเองมีกุญแจอยู่ พร้อมกับขนยางรถยนต์มาด้วยจำนวน 2 เส้น แล้ว มุ่งหน้าไปยังจุดที่เผาศพ ระหว่างทางได้แวะซื้อน้ำมัน จากนั้นได้ไปยังจุดที่เผาศพ ใช้เวลาประมาณ 3 ชม. จนกระทั่งสภาพศพถูกเผาไหม้ไปประมาณ 80 % จึงนำไปทิ้งในแม่น้ำเจ้าพระยาแล้วขับรถกลับมายังที่พัก กระทั่งญาติมาแจ้งคนหาย ตำรวจเกิดความสงสัยจึงนำตัวมาสอบสวนจนผู้ต้องหารับสารภาพ
ด้านนางภาวินี ศุภศรี มารดาของน้องน้ำฝน เผยว่าผู้ต้องหามาขอโทษแล้ว แต่ไม่อยากพูดอะไร ก็อโหสิให้ เพื่อให้วิญญาณลูกไปสู่สุขคติ ไม่ติดค้างกัน ลูกสาวเป็นเด็กขยัน ขายของตามตลาดนัดและย่านโรจนะ อ.อุทัย และปกติ ส.ต.อ.ปิยะ รักลูกสาวมาก แต่เวลาโกรธจะมีอารมณ์รุนแรง มีการทำร้ายร่างกายกันบ่อยครั้ง ไม่คิดว่าจะมาทำถึงตาย อยากให้กฎหมายดำเนินคดีลงโทษสูงสุด และไม่อยากให้มีการประกันตัว