พ่อเห็นลูกชายจะถูกทำร้ายคว้าปืนลูกซองยิงใส่คู่อริ บาดเจ็บ 3 ราย สาเหตุทะเลาะกันผ่านเฟสบุ๊ค
เมื่อเวลา 00.20 วันที่ 17 ก.ย.63 พ.ต.ท พีรกุล แฝงฤทธิ์หลง สว.(สอบสวน) สภ.บางปะอิน จ.พระนครศรีอยุธยา รับแจ้งเกิดเหตุทะเลาะวิวาทและใช้อาวุธปืนยิงมีผู้ได้รับบาดเจ็บ บนถนนจอมพล ป. พิบูลย์สงคราม ม.3 ต.คุ้งลาน อ.บางปะอิน จ.พระนครศรีอยุธยา จึงเดินทางไปตรวจสอบพร้อม พ.ต.อ สถิตย์ สังข์ประไพ รรท.ผกก.สภ.บางปะอิน ประสานเจ้าหน้าที่มูลนิธิพุทไธสวรรย์ ไปให้การช่วยเหลือผู้บาดเจ็บ
พบรถยนต์กระบะ 4 ประตู ยี่ห้ออีซูซุ สีขาว หมายเลขทะเบียน กร-4689 ลพบุรี ที่ประตู รถ และกระจกด้านข้างคนขับ มีรอยถูกยิงด้วยอาวุธปืน เป็นรูพรุน นับได้ 21 รู ข้างรถพบผู้ได้รับบาดเจ็บ เป็นชาย 1 ราย ทราบชื่อ นายวิโรจน์ ชูสร้อย อายุ 30 ปี มีบาดแผลถูกยิงด้วยอาวุธปืนเข้าที่ศีรษะ อาการสาหัส เจ้าหน้าที่เร่งปฐมพยาบาลช่วยเหลือ นำส่งโรงพยาบาล
นอกจากนี้ยังมีผู้ได้รับบาดเจ็บอีก 2 ราย ถูกนำตัวส่งโรงพยาบาลแล้วเช่นกัน ทราบชื่อคือ นายวิรัตน์ ชูสร้อย อายุ 30 ปี ถูกยิงเข้าที่ศีรษะ กระสุนฝังใน และ น.ส.กัลยา ไผ่ด้วง อายุ 21 ปี ซึ่งนั่งอยู่ในรถ ถูกเศษกระจกบาดรถยนต์บาด
ที่บริเวณหน้าอู่ซ่อมรถยนต์ ตรงข้ามกับที่เกิดเหตุ พบ นายฐิติพงศ์ ภาควัตร์ อายุ 56 ปี ยืนถืออาวุธปืนลูกซองยาว รอพบเจ้าหน้าที่ตำรวจ พบปลอกกระสุนปืนลูกซองเบอร์ 12 จำนวน และกระสุนปืน ลูกซองเบอร์ 12 จำนวน 1 นัด ตกอยู่ที่พื้น ซองเก็บลูกปืน พร้อมกระสุนปืนอีก2 นัด เจ้าหน้าที่จึงตรวจจึงควบคุมตัว พร้อมกับตรวจยึดอาวุธปืน ไว้เป็นหลักฐาน
สอบถาม นายฐิติพงศ์ ภาควัตร์ อายุ 56 ปี ในเบื้องต้น ทราบว่า ตนได้ยิงเสียงทะเลาวิวาทกัน จึงออกมาดูพบว่าลูกชายตัวเองกำลังจะถูกทำร้าย เห็นกลุ่มวัยรุ่นวิ่งข้ามถนนมา จึงคว้าอาวุธปืนลูกซองยิงไป 1 นัด ก่อนหน้านี้มามีปากเสียงกันที่หน้าอู่รอบแล้ว ยอมไม่ได้จะมาทำร้ายลูก
ด้าน นายพลวัฒน์ ภาควัดร์ อายุ 28 ปี ลูกชายผู้ก่อเหตุ เล่าเหตุการณ์ให้ฟังว่า เป็นเจ้าของอู่ซ่อมรถยนต์ ช่วงนั้นนั่งอยู่ในแง้มประตูเอาไว้ กลุ่มผู้ได้รับบาดเจ็บ ได้มาจอดรถฝั่งตรงข้าม ได้ยินเสียงคล้ายเสียงปืนดังถูกที่ประตู จึงออกมาดูพบกลุ่มผู้บาดเจ็บ กำลังจะเดินข้ามถนนมา จึงเกิดการโต้เถียงถ้าทายกัน หนึ่งในผู้บาดเจ็บเดินข้ามถนนมา จะเอามีดมาแทง ตนจึงตะโกนเรียกพ่อให้หยิบปืนมาด้วย จากนั้นพ่อออกมาจึงใช้อาวุธปืนลูกซองยิงใส่ผู้บาดเจ็บ ก่อนยืนรอพบกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ
ส่วนกลุ่มผู้บาดเจ็บนั้น เปิดอู่ซ่อมรถเหมือนกัน ก่อนหน้านี้ตนได้เข้าไปแสดงความคิดเห็นในเฟซบุ๊กรุ่นพี่เกี่ยวกับการซ่อมรถยนต์ จนมีการตอบโต้กันไปมา ซึ่งคืนวันที่ 15 ก.ย.ที่ผ่านมา กลุ่มผู้บาดเจ็บได้ขับรถเก๋งมาเบิ้ลเครื่องยนต์เสียงดังหน้าร้าน ตนจึงขับรถยนต์ไล่ตามไป จนเกิดการโต้งเถียงท้าทายกัน จากนั้นแยกย้ายกันไป จนคืนนี้กลุ่มผู้บาดเจ็บก็ขับรถมาหาเรื่องอีก จึงเกิดการทะเลาะและมีการยิงกันจนมีผู้ได้ผู้บาดเจ็บ
ด้าน พ.ต.อ สถิตย์ สังข์ประไพ รรท. ผกก.สภ.บางปะอิน กล่าวว่า จากการสอบสวนเบื้องต้นทราบว่า ลูกชายผู้ก่อเหตุมีอาชีพเปิดอู่ช่อมรถ เหมือนกันกับผู้บาดเจ็บ จากนั้นมีการคอมเม้นเฟซบุ๊คถึงการซ่อมรถยนต์ของรุ่นพี่ ซึ่งมีกลุ่มผู้บาดเจ็บเป็นเพื่อนด้วย ทำให้เห็นคอมเม้นดังกล่าว อาจไม่พอใจ แล้วมีการมาหาเรื่องกันก่อนแล้ว 1 ครั้ง จนวันนี้กลับมาอีกครั้ง จึงทำให้ผู้ก่อเหตุ ซึ่งเป็นพ่อ ออกมาปกป้องลูก ใช้อาวุธปืนยิงก่อเหตุดังกล่าว ส่วนที่มีการกล่าวอ้างว่า คู่กรณีมีใช้อาวุธปืนยิงเข้ามาก่อนนั้น ยังไม่พบพยานหลักฐาน
จากการตรวจสอบภายในรถยนต์ของผู้บาดเจ็บ ก็ไม่พบอาวุธปืน เบื้องต้นตำรวจได้คุมตัว นายฐิติพงศ์ ผู้ก่อเหตุไปสอบสวนแล้ว พร้อมแจ้งข้อหา “พยายามฆ่าผู้อื่น และมีอาวุธปีนไว้ในครอบครอง” ไว้ก่อน จากนั้นจะทำการสอบสวนผู้บาดเจ็บอย่างละเอียดอีกครั้ง เพื่อดำเนินการตามขั้นตอนกฎหมายต่อไป
