เสี่ยเต็นท์รถผวา ถูกคนร้าย ยิงถล่มบ้าน คืนเดียว 2 ครั้งซ้อน
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 27 มิ.ย. พ.ต.ท.พูลสิญจน์ ดาวแจ้ง สว.สส ร.ต.อ.อิทธิพล พุทรักษา รองสว.สส.กก.สส.ภ.จว.พระนครศรีอยุธยา เข้าตรวจสอบ พร้อมสอบสวนเจ้าของบ้าน เลขที่ 18 ม.2 ต.บางประแดง อ.บางปะอิน จ.พระนครศรีอยุธยา หลังถูกคนร้าย ใช้อาวุธปืนยิงถล่มบ้าน กว่า 20 นัด จนบ้านได้รับความเสียหาย เหตุเกิดเมื่อกลางดึกวันที่ 26 มิ.ย. ที่ผ่านมา
จากการตรวจสอบพบว่า ที่บริเวณรั้วบ้าน เสาบ้าน. ฝาบ้านทั้งชั้นบ้านและชั้นล่าง มีร่องรอยถูกยิงด้วยอาวุธปืน ขนาด9 มม. และขนาด.38 มม. ตรวจพบหัวกระสุนปืนฝั่งอยู่ที่ฝาบ้าน ปลอกกระสุนปืนตกอยู่ริมถนนหน้าบ้าน จำนวนหลายปลอก เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้เก็บไว้เป็นหลักฐาน
สอบถามนาย ศิริพงษ์ กาญจนนิมมาน อายุ 41 ปี เจ้าของบ้าน เป็น เจ้าของเต็นท์รถยนต์มือสอง เล่าเหตุการณ์ให้ฟังว่า เมื่อกลางดึกวันที่ 26 เวลาประมาณ 01.00 น.ขณะที่ตนเองนอนพักผ่อนอยู่กับภรรยาที่ชั้นล่างของบ้าน ส่วนลูกชายนอนอยู่ชั้นบนกับเพื่อนรวม 6 คน ได้ยินเสียงรถจักรยานยนต์ขับผ่านหน้าบ้าน จากนั้นได้ยินเสียงปืนดังติดต่อกันหลายนัด จึงวิ่งออกมาดู คนร้ายขับขี่หลบหนีไปด้วยความเร็ว สำรวจภายในบ้านพบว่า มีรั้วบ้าน และฝาผนังบ้านชั้นบน ห้องอนลูกชายเสียหาย ส่วนคนที่อยู่ในบ้านไม่ใครได้รับบาดเจ็บ ตั้งใจว่าช่วงเช้าจะแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจ จากนั้นจึงแยกย้ายกันเข้านอน
จนเวลาประมาณ 02.00 น. มีรถยนต์กระบะขับมายิงถล่มบ้านอีกรอบ น่าจะยิงจากปืน 2 กระบอก โชคดีที่กระสุนปืนไม่ถูกคนในบ้าน เชื่อว่าคนร้ายต้องหวัง ที่จะยิงให้ถูกคนในบ้านเพราะจุดที่กระสุนปืนเข้าเป็นห้องอนลูกและชายและของตนเอง คนร้ายลงมือก่อเหตุในช่วงเวลาใกล้เคียงกัน ตนเองเห็นว่าจะเกิดความไม่ปลอดภัย จึงได้ได้แจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.บางปะอิน มาตรวจสอบ ซึ่งมีพยานยืนยันเห็นรถยนต์กระบะ สีบอรน ลักษณะแต่งวิ่ง มีชายสองคนนั่งในกระบะ ยืนยิ่ง และนั่งยิงในกระบะ
การประกอบอาชีพของตนเองไม่มีความขัดแย้งอะไรกับใคร สาเหตุน่าจะมาจากการที่ลูกชายของตนเองอายุ15 ปี มีเรื่องชดต่อยกับวัยรุ่น คนหนึ่งอายุประมาณ 17 ปี ก่อนหน้าที่จะถูกยิงได้ประมาณ 1 วัน
ในเบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตำรวจ เร่งสอบสวนพยานที่เห็นเหตุการณ์ พบเห็นรถยนต์ต้องสงสัย ขับขี่ขับขี่เข้ามาในหมู่บ้านสอบถาม หาบ้านที่ถูกอาวุธปืนยิงถล่ม พร้อมกับตรวจสอบภาพกล้องวงจรปิดตามเส้นทาง หารถยนต์ของคนร้ายที่ก่อเหตุ เพื่อติดตามตัวคนร้ายมาดำเนินคดี
