เผาทำลายยาเสพติดกว่า 25,301 กิโลกรัม เนื่องในวันต่อต้านยาเสพติดโลก
วันที่ 26 มิ.ย. ที่ศูนย์บริหารสาธารณูปโภคและสิ่งแวดล้อม ภายในนิคมอุตสาหกรรมบางปะอิน จ.พระนครศรีอยุธยา นาย อนุทิน ชาญวีรกุล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีกระทรวงสาธารณสุข นาย แพทย์สุขุม กาญจนพิมาย ปลัดกระทรวงสาธารณสุข เป็นประธานเผาทำลายยาเสพติดให้โทษของกลาง กว่า 25,301 กิโลกรัม จาก 2,751 คดี มูลค่า 55,941 ล้านบาท เนื่องในวันต่อต้านยาเสพติดโลก โดยมีหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง และคณะทูตานุทูตจากประเทศต่าง ๆ ร่วมเป็นสักขีพยาน
โดยยาเสพติดที่ทำการเผาทำลาย กว่า 25,301 กิโลกรัม จาก 2,751 คดี มีมูลค่าเมื่อเข้าสู้กระบวนการค้ายาเสพติด กว่า 55,941 ล้านบาท ประกอบไปด้วย ยาบ้า 203 ล้านเม็ด น้ำหนัก 18,303 กิโลกรัม มูลค่าประมาณ 40,674 ล้านบาท ยาไอซ์ น้ำหนักกว่า 5,878 กิโลกรัม มูลค่าประมาณ 12,932 ล้านบาท เฮโรอีนน้ำหนักกว่า 541 กิโลกรัม มูลค่าประมาณ 2,301 ล้านบาทและยังมี ยาอี/ยาเลิฟ ฝิ่น โคคา ยาเสพติดอื่นๆ น้ำหนักรวม 557กิโลกรัม ยาเสพติดทั้งหมดถูกเผาทำลาย ด้วยวิธีไพโรไลติก อินซิเนอะเรชั่น (Pyrolytic Incineration) ซึ่งเป็นการเผาที่อุณหภูมิสูงมาก ไม่ต่ำกว่า 850 องศาเซลเซียส ซึ่งจะทำให้เกิดการสลายตัวของโมเลกุลกลายเป็นคาร์บอนในระยะเวลาอันรวดเร็ว ไม่ก่อให้เกิดมลพิษกับสิ่งแวดล้อม
นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า เป็นครั้งแรกที่ตนเองอยู่ใกล้ชิดสิ่งของที่มูลค่ามากมายมหาศาลขนาดนี้ แต่เป็นสิ่งของที่น่ารังเกียจมูลค่าของมันเป็นมูลค่าที่สูง ทำลายร้างประเทศชาติเรา ทำลายลูกหลานเยาวชนของไทย เราต้องคิดว่ามันมีแต่ค่าที่เป็นตัวเลข ไม่มีค่าที่จะเป็นประโยชน์ต่อสังคม จึงไม่สมควรที่จะให้ยาเสพติดเหล่านี้ มาทำร้ายประเทศชาติของเรา จึงต้องมีการจับกุมและนำมาเอาทำลาย
กระทรวงสาธารณสุขมีหน้าที่หลักในการบำบัดรักษาและฟื้นฟูสมรรถภาพผู้ติดยาเสพติด ป้องกันไม่ให้กลับมาเสพซ้ำ ซึ่งในปีงบประมาณ2563 ตั้งเป้านำผู้เสพผู้ติดยาเสพติดเข้ารับการบำบัด 210,982 คน แบ่งเป็นระบบสมัครใจ 113,382 คน บังคับบำบัด 56,600 คน ต้องโทษ 26,000 คน และระบบคุมความประพฤติ 15,000 คน สำหรับผลการดำเนินงานตั้งแต่วันที่ 1ตุลาคม 2562 – 15 มิถุนายน 2563 นำผู้เสพเข้าสู่กระบวนการบำบัด แล้ว 128,520 คน คิดเป็นร้อยละ 60.92 จากระบบสมัครใจ 48,479 คน ระบบบังคับบำบัด 66,253 คน และระบบต้องโทษ 13,788 คน ทั้งนี้โรงพยาบาลในสังกัดกระทรวงสาธารณสุขทุกแห่งทั่วประเทศพร้อมให้คำปรึกษาและนำเข้าสู่ระบบบำบัดรักษาที่ได้มาตรฐานสากล