เพื่อนบ้านติดกัน มีปากเสียงกัน ชักอาวุธปืนยิงดับหน้าบ้าน
เมื่อเวลา 13.00 น. วันที่ 28 เม.ย. ที่สภ.บ้านแพรก จ.พระนครศรีอยุธยา พล.ต.ต.ธนายุตม์ วุฒิจรัสธำรงค์ รองผบช.ภ 1 พ.ต.อ นฤดม มารศรี ผกก.สภ. บ้านแพรก ร่วมกันสอบสวนนายวิทยา เปาวิมานอายุ 49 ปี ผู้ต้องหา ก่อเหตุใช้อาวุธปืน ขนาด.38 ยิง นาย เสมา พุกกะ อายุ 45 ปี ได้รับบาดเจ็บสาหัส ที่หน้าบ้านเลขที่ 92 ม.2 ต.สำพะเนียง อ.บ้านแพรก จ.พระนครศรีอยุธยา และไปเสียชีวิตที่โรงพยาบาลบ้านแพรก เหตุเกิดเมื่อกลางดึกวันที่ 27 เม.ย.2563 ที่ผ่านมา ใช้เวลาในการสอบสวนประมาณ 30 นาที จากนั้นตรวจสอบของกลางที่ตรวจยึดได้ เป็น อาวุธปืน สั้นลูกโม่ขนาดจุด 38 จำนวน 1 กระบอก กระสุนจำนวน 11 นัด ปลอกกระสุนปืน จำนวน 3 นัดรถจักรยานยนต์ ฮอนด้าเวฟ สีน้ำเงินขาวไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน เสื้อผ้าที่ผู้ต้อหา สวมใส่ ขณะก่อเหตุ
จากนั้นเดินทางไปตรวจสอบที่เกิดเหตุพบว่ายังมีกองเลือดจำนวนมากอยู่บริเวณฟุตบาธ บริเวณหน้าบ้านของผู้เสียชีวิตซึ่งอยู่ติดกับบ้านของผู้ต้องหาด้วย
น.ส.หทัยรัตนดิษฐ์สังวรณ์ อายุ 42 ปี ภรรยาของผู้เสียชีวิต เปิดเผยว่า ก่อเกิดเหตุ ตนและลูกนั่งานพัดอยู่ในบ้าน สามี ได้ขับรถจักรยานยนต์คันนใหญ่เสียงดั ขณะกำลังเลี้ยวเข้ามาในบ้าน ถูกผู้ต้องหา ซึ่งมีบ้านติดกัน ตะโกนให้ “ของลับ” ขณะที่สามีกำลังเดินออกไปปิดประตูรั้วบ้าน ได้ยินเสียงผู้ต้องหา พูดกับสามีตน ว่า “มึงมีอะไรกับกูไหม มึงจะทำไม” และ สามีของตนบอกกลับไปว่า “พี่มีอะไรกับผมไหมครับ “จากนั้นมีเสียงปืนดังขึ้น 3-4 จึงรีบวิ่งออกไปยืนมองนอกรั้วบ้าน พบสามีนอนอยู่ ผู้ต้องหายืนถือปืนอยู่ที่ปลายเท้า ตะโกนถาม ยิงสามีองตนเองทำไมผู้ต้องหาหันมามองหน้าตน จากนั้นผู้ต้องหาเดินกลับเข้าบ้านไป อย่าใจเย็น จึงเข้าไปช่วยเหลือสามีช่วยเหลือนำส่งโรงพยาบาล ไปเสียชีวิตที่โรงพยาบาล
สำหรับผู้ต้องหาเวลาที่เมาสุรามักมจะมีปากเสียงกันเป็นประจำส่งเสียงเอะอะโวยวาย ไม่คิดว่าจะมาก่อเหตุยิงกันทั้งที่เป็นเพื่อนบ้านใกล้ชิดกัน ส่วนสามีตนเองเป็นคนขยันค้าขายขายปลาเค็มตามตลาดนัด เป็นประธานชุมชน ช่วยเหลือชาวบ้านในชุมชนมาตลอด
พล.ต.ต. ธนายุตม์วุฒิจรัสธำรงค์ รองผบช.ภ 1 กล่าวว่า จากการสอบสวน นายวิทยาผู้ต้องหาเบื้องต้น ทราบว่า ผู้ต้องหาอยู่ มีบ้านติดกับผู้เสียชีวิต เมื่อค่ำคืนที่ผ่านมาผู้เสียชีวิตได้ขี่รถจักรยานยนต์กลับมาที่บ้านพัก มีปากเสียงกัน จึงได้เดินออกมาหาผู้เสียชีวิตบริเวณหน้าบ้านจากนั้นเกิดการโต้เถียงกันอีกครั้ง ผู้ตายพูดจาไม่ให้รู้จักพี่รู้รักจักน้อง จึงใช้อาวุธปืนยิงผู้เสียชีวิต จนล้มลง จากนั้นเข้าบ้านพักแล้วขับขี่รถจักรยานยนต์หลบหนีไป จนถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจกดดันติดต่อขอเข้ามอบตัว