กลุ่มวัยรุ่นถูกตำรวจยึดรถจยย. ย้อนกลับมาขโมย แถมเอารถจยย.ของกลางไปอีก 5 คัน
วันที่ 10 เม.ย. พล.ต.ต.สุศักดิ์ ปรักกมะกุล ผบก.ภ.จว.พระนครศรีอยุธยา พ.ต.อ. ธีรวุฒิ แสงมณี ผกก. พ.ต.ท.สุรเชษฐ์ อ่อนแสง รองผกก.สส. พ.ต.ต.ท.ธรรมรัชต์ สัมฤทธิ์ สว.สส. สภ.ท่าเรือ จ.พระนครศรีอยุธยา ควบคุมตัว นายเอ. อายุ19ปี นายบี. อายุ19 ปี ชาว อ.บ้านหมอ จ.สระบุรี ผู้ต้องหาก่อเหตุลักรถจักรยานยนต์ของกลางที่เก็บรักษา เอาไว้บริเวณด้านข้างของ สภ.ท่าเรือ มานำชี้ ของกลาง เป็นรถจักรยานยนต์ จำนวน 5 คัน ของกลางที่ก่อเหตุ อะไหล่รถจักรยานยนต์ ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนได้ทำการติดตามตรวจยึด มา พร้อมกับรถจักรยานยนต์ ที่กลุ่มผู้ต้องหา ร่วมกับผู้ต้องหาเป็นเยาวชนอีก 4คน ใช้ในการก่อเหตุอีก 4 คัน
จากนั้นนำไปชี้จุดที่คนร้ายก่อเหตุบริเวณ ที่เก็บของกลางรถจักรยานยนต์ ที่เจ้าหน้าที่ตำรวจยึด จากการกระทำความผิดของคนร้าย และรถจักรยานยนต์ที่ตรวจยึดตามพ.ร.บ.มาตรการคดียาเสพติด นายเอ และนายบี ได้อ้อมเข้ามาด้านข้างของ สภ.ท่าเรือ ปีนรั้วกันซึ่งมีความสูงประมาณ 1.50 เมตร แล้วช่วยกันยกรถจักรยานยนต์ข้ามที่เก็บของกลาง แล้วออกเข็นรถลัดเลาะไปตามรางรถไฟหลบหนีไป
ผู้ต้องหาให้การรับสารภาพว่า ถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ท่าเรือจับกุม ตรวจยึดรถจักรยานยนต์ เนื่องจากรถจักรยานยนต์แต่งซิ่ง อยากจะได้รถจักรยานยนต์คืน จึงได้ร่วมกันเข้ามาก่อเกตุลักรถจักรยานยนต์ ในที่เก็บของกลาง อยู่ใกล้กับรางรถไฟ เมื่อกลางดึกวันที่ 22 มี.ค.2563 โดยตัดไฟบริเวณที่เก็บของกลางก่อน แล้วปีนข้ามรั้วเข้าไป อาศัยช่วงจังหวะที่ขบวนรถไฟวิ่งผ่านเสียงดัง จึงช่วยกันยกรถจักรยานยนต์ออกมา แล้วหลบหนีไป ต่อมาได้ย้อนกลับมาก่อเหตุหลายครั้ง แบบวันเว้นวัน จนมาถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจจกุมตัว
พ.ต.อ.ธีรวุฒิ แสงมณี กล่าวว่า ตนเองเห็นว่ารถจักรยานยนต์ที่ตรวจยึดมามีจำนวนหลายคัน จึงได้ให้สำรวจ รถจักรยานยนต์คันใดสิ้นสุดคดีความบ้าง จะจัดระเบียบให้เรียบร้อย จึงพบว่ามีรถจักรยานยนต์หายไป จำนวนหลายคันจึงให้เจ้าหน้าที่ตำรวจทำการสืบสวน จนสามารถจับกุมผู้ต้อหาได้ พร้อมของกลาง ซึ่งการก่อเหตุเป็นการก่อเหตุต่างกรรมต่างวาระกัน จึงได้ให้พนักงานสอบสวนดำเนินคดี ในข้อหา
ร่วมกันลักทรัพย์ในเวลากลางคืนโดยทำอันตรายสิ่งกีดกั้น สำหรับคุ้มครองบุคคลหรือทรัพย์ หรือโดยผ่านสิ่งเช่นว่านั้นเข้าไปด้วยประการใดๆ โดยใช้ยานพาหนะเพื่อสะดวกแก่การกระทำความผิดหรือการพาเอาทรัพย์นั้นไปหรือเพื่อไปให้พ้นจากการจับกุม หรือรับของโจรและร่วมกันทำให้เสียหายทำลายซ่อนเร้นเอาไปเสียหรือทำให้สูญหาย หรือไร้ประโยชน์ซึ่งทรัพย์สินอันเจ้าพนักงานได้ยึดรักษาไว้ และซ่องโจร