อยุธยาพบผู้ป่วยไวรัสโควิด เพิ่มอีก 2 รายเป็นผู้รับเหมาและหนุ่มโรงงาน
วันที่ 26 มี.ค.ที่สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดพระนครศรีอยุธยา นายภานุ แย้มศรี ผวจ.พระนครศรีอยุธยา นายแพทย์ พีระ อารีรัตน์ สาธารณสุขจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ร่วมกันแถลงข่าวความคืบหน้าสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสคิด19 ของจังหวัดพระนครศรีอยุธยา
นายภานุ แย้มศรี ผวจ.พระนครศรีอยุธยา เปิดเผยว่าล่าสุดจังหวัดพระนครศรีอยุธยา พบผู้ป่วยติดเชื้อไวรัสโควิด19 เพิ่ม อีกจำนวน 2 ราย ในพื้นที่ อ.วังน้อย จ.พระนครศรีอยุธยา รายที่ 1 เป็นชาย อายุ 23 ปี เป็นผู้รับเหมา ชาว อ.วังน้อย จ .พระนครศรีอยุธยา มีประวัติรับเหมาก่อสร้าง ใน.อ.บ้านนา จ.นครนายก และเดินทางกลับมาพักที่หอพัก แห่งหนึ่ง ใน อ.วังน้อย จ.พระนครศรีอยุธยา ผู้ป่วยรายนี้เริ่มมีอาการไข้ วันที่ 12 มีนาคม 2563 และ ในวันที่ 18 มีนาคม ไปตรวจหาเชื้อ โควิด-19 ที่รพ.แพทย์รังสิต พบผลบวก ขณะนี้ผู้ป่วยพักรักษาตัวที่โรงพยาบาลสามโคก จ.ปทุมธานี
ผลการสอบสวนโรค พบว่ามีผู้สัมผัสเสี่ยงสูงเป็นผู้อาศัยอยู่ร่วมในบ้าน คือภรรยา ซึ่งทำงานอยู่ในโรงงานในจังหวัดปทุมธานี ได้ส่งตรวจหาเชื้อโควิด-19 และให้สังเกตอาการตนเอง 14 วัน ประสานพื้นที่ ในการเฝ้าระวังค้นหาผู้สัมผัสเพิ่มเติม ซึ่งทราบผลแล้วจะแจ้งให้ทราบต่อไป
ผู้ป่วยรายที่ 2 เป็นชาย พักอาศัยอยู่ที่ จ.ปทุมธานี ทำงานในโรงงานอำเภอวังน้อย ตรวจพบเชื้อเมื่อวันที่ 24 มีนาคม เข้ารับการรักษาตัวที่โรงพยาบาลในจังหวัดปทุมธานี
ผลสอบสวนโรคพบผู้สัมผัส คือภรรยา และเพื่อนร่วมงาน จังหวัดปทุมธานี ได้ส่งตรวจ หาเชื้อโควิด19 และให้สังเกตอาการ ตนเอง 14 วัน ผู้ป่วยรายนี้ทำงานในจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ในระหว่างวันที่ 11-12 มีนาคม และได้เดินทางมาประชุม โรงงานจึงได้ให้หยุดทำงานและกักตัวผู้สัมผัส 14 วันแล้ว
นายภานุ กล่าว ขอความร่วมมือพี่น้องประชาชนให้ความร่วมมือในการป้องกันและควบคุมโรค ระบาดนี้ ต้องร่วมมือกัน รับผิดชอบตนเองรับผิดชอบสังคม โดยผู้ที่เกี่ยวข้องกับผู้ป่วยหรือสงสัยติดเชื้อ ขอให้สังเกตอาการตนเองเป็นเวลา 14 วัน หากมีไข้ ร่วมกับอาการไอ เจ็บคอ มีน้ำมูกหายใจลำบากหรืออย่างใด อย่างหนึ่ง ขอให้ไปตรวจรักษาที่สถานบริการสาธารณสุขใกล้บ้าน ขอให้ประชาชนติดตามการประกาศจากทางจังหวัดพระนครศรีอยุธยา และขอให้คิดว่าผู้ป่วย คือญาติพี่น้องของเรา อย่าได้ไปรังเกียจ หรือไปกดดันกันทางสังคม
นายแพทย์ พีระ อารีรัตน์ สาธารณสุขจังหวัดพระนครศรีอยุธยา เปิดเผยว่า ในส่วนของผู้ป่วยรายแรก ใน อ.มหาราช จ.พระนครศรีอยุธยา มีแพทย์ 1 คน และพยาบาลเจ้าหน้าที่ 7 ราย ส่งผลตรวจ สัมผัสใกล้ชิดกับผู้ป่วย ได้ให้หยุดงาน กักตัว และส่งผลตรวจทันทีแล้ว
