ไฟไหม้ตลาดบ้านสร้างยายวัย 72 ปีหนีไปแช่ในอ่างน้ำสำลักควันเสียชีวิต
เมื่อเวลา 00.30 น. วันที่ 20 ธ.ค. พ.ต.ท.นราธิป สุทนต์ รอง ผกก..สอบสวน สภ.บางปะอิน จ.พระนครศรีอยุธยา ได้รับแจ้งเกิดเหตุเพลิงไหม้อาคารพาณิชย์ภายในตลาดบ้านสร้างเลขที่ 209 ม.5 ต.บ้านสร้าง อ.บางปะอิน จ.พระนครศรีอยุธยา ไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ พร้อมประสานขอรถดับเพลิงจากเทศบาลตำบลบ้านสร้าง รถดับเพลิงจากองค์ปกครองส่วนท้องถิ่น รถดับเพลิงจาก สมาคมอยุธยารวมใจ
พบเป็นอาคารพาณิชย์ 2 ชั้นปลูกติดกันที่ห้องเลขที่ 209 เป็นห้องริมสุด เปิดเป็นร้านขายของชำ มีแสงเพลิงออกมาจากตัวอาคาร ที่ชั้นล่างเป็นประตูเหล็กแบบบานรูดปิดเปิดเจ้าหน้าที่ต้องพังประตูเหล็กเข้าไป ระดมฉีดน้ำเพื่อควบคุมเพลิงพร้อมกับใช้รถกระเชาขึ้นที่ชั้น 2 เพื่อควบคุมเพลิงใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง จึงสามารถควบคุมเพลิง
ตรวจสอบภายในอาคารพบเพลิงลุกไหม้เสียหายทั้งหมด ภายในห้องน้ำชั้นล่างที่บริเวณอ่างน้ำพบศพนางพเยาว์ โกมล อายุ 72 ปี เจ้าของบ้าน สภาพตัวแช่อยู่ในอ่างน้ำมีเพียงแค่ที่โผล่ออกมา ตามร่างกายถูกไฟไหม้ที่แขนและใบหน้า เป็นภาพที่น่าสลดใจ
นายผดุงศักดิ์ อัตถาผล อายุ 35 ปี เจ้าหน้าที่ดับเพลิงของสมาคมอยุธยารวมใจ เปิดเผยว่า ทราบว่าภายในอาคาร มีเจ้าของอาคารติดอยู่ในกองเพลิงจึงได้เร่งควบคุมเพลิง แล้วเข้าไปตรวจสอบภายในอาคาร พบว่าที่ห้องน้ำชั้นล่าง พบศพของเจ้าของอาคารแช่อยู่ในอ่างน้ำของห้องน้ำ คาดว่าขณะเกิดเพลิงไหม้ไม่สามารถหนีออกมาได้ จึงตัดสินใจหลบเข้าไปแช่น้ำในอ่างน้ำ ประกอบกับเพลิงลุกไม้ชั้นล่างเสียหายทั้งหมด น่าจะสำลักควันเสียชีวิต
สอบถาม นายเศรษฐศาสตร์ โกมลอายุ 60 ปีน้องชายผู้เสียชีวิต ทราบว่าผู้เสียชีวิต อาศัยอยู่ในบ้านเพียงคนเดียว โดยมีลูกแต่ลูกอยู่ต่างจังหวัด โดยลูกชายเป็นเจ้าอาวาสวงษ์สวรรค์ ต.หันตะเภา อ.วังน้อย จ.พระนครศรีอยุธยา ส่วนพี่สาวจะนอนอยู่ชั้นล่าง ตามปกติ ตนเองพักอาศัยอยู่ไม่ไกลหนักขณะเกิดเหตุมีชาวบ้านไปตามว่าบ้านพี่สาวไฟไหม้ จึงรีบมาดูพบแสงเพลิงกำลังลุกไหม้อย่างรวดเร็ว เพลิงสงบและพบว่าพี่สาว ได้หนีเข้าไปอยู่ในอ่างน้ำห้องน้ำ สำลักควันเสียชีวิต
ในเบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตำรวจสันนิษฐานว่า ขณะเกิดเพลิงไหม้ผู้เสียชีวิตพักอาศัยอยู่ที่ชั้นล่างเมื่อเกิดเพลิงไหม้แล้วไม่สามารถออกมาจากตัวอาคารได้ จึงได้ตัดสินใจ เข้าไปซ่อนตัวอยู่ในอ่างน้ำในห้องน้ำ จนทำให้สำลักควันเสียชีวิต สาเหตุของการเกิดเพลิงไหม้น่าจะเกิดจากไฟฟ้าลัดวงจรเนื่องจากเป็นอาคารพาณิชย์สภาพเก่า ซึ่งจะต้องรอให้เจ้าหน้าตำรวจพิสูจน์หลักฐานพระนครศรีอยุธยา เข้าตรวจสอบหาสาเหตุของการเกิดเพลิงไหม้อีกครั้ง
